เสาร์ที่ 5 มีนาคม 2016 พบกัน "ดาเนียล" พร้อมแล้ว
ค้นหาข้อมูลจากบล็อกนี้
วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
เปโตร และ เปตรา สำนวนคำกรีก
ยังไม่จบอีกครับ เรื่องของ "เปโตร"
ชาวคาทอลิกตีความเป็นสถานที่ที่เปโตรถูกตรึงตาย
ชาวโปรแตสแตนท์ตีเป็นเรื่องจิตวิญญาณ หรือนามธรรม
แต่ยังมีอีกความหมาย...
จาก...มัทธิว บทที่ 16 ข้อ 18 ฝ่ายเราบอกท่านว่า ท่านคือ เปโตร และบน #ศิลานี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นหามิได้
κἀγὼ δέ σοι λέγω ὅτι σὺ εἶ Πέτρος, καὶ ἐπὶ ταύτῃ τῇ πέτρᾳ οἰκοδομήσω μου τὴν ἐκκλησίαν, καὶ πύλαι ἅ|δου οὐ κατισχύσουσιν αὐτῆς.
ในตอนนี้ในภาษากรีกเป็นการเล่นคำครับ Πέτρος เปโตร กับ πέτρᾳ เปตรา ซึ่งทั้งสองคำมีความหมายถึง "ก้อนหิน"
และ เปตรายังเป็นสถานที่จริงๆ อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศจอร์แดน
"เปตรา" (จากภาษากรีก πέτρα แปลว่าหิน ภาษาอารบิก البتراء) คือนครหินแกะสลักโบราณที่ซ่อนตัวอย่างลึกลับในหุบเขาวาดี มูซา หุบเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลเดดซีกับอ่าวอะกาบาในประเทศจอร์แดน นครนี้แต่เดิมนั้นเป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ซึ่งต่อมาถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี
"เปตรา" เจริญถึงขีดสูงสุดในช่วง 50 ปีก่อนคริสตกาล จนถึงค.ศ.70 ในช่วงเวลานี้เปตราถูกปกครองด้วยกษัตริย์นาม อารีตัสที่ 4 (Aretas IV) ผู้ที่ชาวกรีกยกย่องให้ว่า ฟิโลเดมอส (Philodemos) ซึ่งแปลว่า ผู้รักประชาชน และด้วยความมั่งคั่ง ความเป็นเมืองที่อยู่ห่างไกล และชัยภูมิอันยากแก่การพิชิต จึงทำให้เมืองมีโอกาสเจริญเติบโตได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องกลัวศัตรูจากภายนอก...
สรุปว่าพระเยซูอยากให้ เปโตร แข็งแกร่งดุจดัง เปตรา นั่นเอง เป็นสำนวนอ้างอิงถึงสถานที่จริง ที่หมายถึง แกร่งดังนครศิลาแห่งผูภาหิน ยากแก่การพิชิต
วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
แค่ปลื้มพระเยซู!
ถาม คุณรักผมหรือเปล่า!
ตอบ ...แต่ผมปลื้มคุณนะ!
ยอห์น บทที่ 21 ข้อ 15 เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว พระเยซูตรัสกับซีโมนเปโตรว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย เจ้ารักเรามากกว่าเหล่านี้หรือ” เขาทูลพระองค์ว่า “เป็นความจริงพระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์” พระองค์ตรัสสั่งเขาว่า “จงเลี้ยงลูกแกะของเราเถิด”
15 Οτε οὖν ἠρίστησαν λέγει τῷ Σίμωνι Πέτρῳ ὁ Ἰησοῦς, Σίμων Ἰωάννου, ἀγαπᾷς με πλέον τούτων; λέγει αὐτῷ, Ναί, κύριε, σὺ οἶδας ὅτι φιλῶ σε. λέγει αὐτῷ, Βόσκε τὰ ἀρνία μου.
16 พระองค์ตรัสกับเขาครั้งที่สองว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย เจ้ารักเราหรือ” เขาทูลตอบพระองค์ว่า “เป็นความจริงพระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงดูแลแกะของเราเถิด”
16 λέγει αὐτῷ πάλιν δεύτερον, Σίμων Ἰωάννου, ἀγαπᾷς με; λέγει αὐτῷ, Ναί, κύριε, σὺ οἶδας ὅτι φιλῶ σε. λέγει αὐτῷ, Ποίμαινε τὰ πρόβατά μου.
17 พระองค์ตรัสกับเขาครั้งที่สามว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย เจ้ารักเราหรือ” เปโตรก็เป็นทุกข์ใจที่พระองค์ตรัสถามเขาครั้งที่สามว่า “เจ้ารักเราหรือ” เขาจึงทูลพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงทราบว่า ข้าพระองค์รักพระองค์” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงเลี้ยงแกะของเราเถิด
17 λέγει αὐτῷ τὸ τρίτον, Σίμων Ἰωάννου, φιλεῖς με; ἐλυπήθη ὁ Πέτρος ὅτι εἶπεν αὐτῷ τὸ τρίτον, Φιλεῖς με; καὶ λέγει αὐτῷ, Κύριε, πάντα σὺ οἶδας, σὺ γινώσκεις ὅτι φιλῶ σε. λέγει αὐτῷ [ὁ Ἰησοῦς], Βόσκε τὰ πρόβατά μου.
จากบทสนทนาในหนังสือยอห์นตอนนี้จะเห็นว่า ในภาษากรีก พระเยซูถามในภาษากรีกว่า "ἀγαπᾷς (อากาปาส)" หรือ "รักแท้" แค่ 2 ครั้ง แต่เปโตรกลับตอบ "φιλῶ" หรือ "ผมปลื้มคุณนะ (แบบเพื่อนกัน)" 2 ครั้ง
จนครั้งสุดท้ายพระเยซูจึงเปลี่ยนมาใช้ตามเปโตรว่า "φιλεῖς (ฟีลีส)" หรือ "แค่ปลื้มเราหรือ!"
ชีวิตจริงของหลายคน ก็คงเป็นแบบนี้เหมือนกัน หลายคนอาจแค่ปลื้มพระเยซู มองพระเยซูเป็นสหายยามที่เขาทุกข์โศกเศร้า หรือมองแค่พระองค์เป็นผู้มาช่วย แล้วจบกัน พอพระองค์ถามกลับ และให้ช่วยดูแลงานแทน กลับลังเลที่จะทำ...
ลองถามตัวเราเองว่า เราแค่ปลื้มพระเยซู หรือรักพระองค์จริงๆ!
*หมายเหตุ ส่วนคำว่า "αγάπη (อากาเป้, อากาปี)" เป็๋นคำนามนะครับ ไม่ใช่คำกริยา อาจมีบางท่านยังใช้ไม่ตรงหลักอยู่นะครับ ไหนๆ ก็ใช้ภาษากรีกสอนแล้ว ใช้ให้ตรงกันด้วยนะครับ
ตอบ ...แต่ผมปลื้มคุณนะ!
ยอห์น บทที่ 21 ข้อ 15 เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว พระเยซูตรัสกับซีโมนเปโตรว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย เจ้ารักเรามากกว่าเหล่านี้หรือ” เขาทูลพระองค์ว่า “เป็นความจริงพระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์” พระองค์ตรัสสั่งเขาว่า “จงเลี้ยงลูกแกะของเราเถิด”
15 Οτε οὖν ἠρίστησαν λέγει τῷ Σίμωνι Πέτρῳ ὁ Ἰησοῦς, Σίμων Ἰωάννου, ἀγαπᾷς με πλέον τούτων; λέγει αὐτῷ, Ναί, κύριε, σὺ οἶδας ὅτι φιλῶ σε. λέγει αὐτῷ, Βόσκε τὰ ἀρνία μου.
16 พระองค์ตรัสกับเขาครั้งที่สองว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย เจ้ารักเราหรือ” เขาทูลตอบพระองค์ว่า “เป็นความจริงพระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงดูแลแกะของเราเถิด”
16 λέγει αὐτῷ πάλιν δεύτερον, Σίμων Ἰωάννου, ἀγαπᾷς με; λέγει αὐτῷ, Ναί, κύριε, σὺ οἶδας ὅτι φιλῶ σε. λέγει αὐτῷ, Ποίμαινε τὰ πρόβατά μου.
17 พระองค์ตรัสกับเขาครั้งที่สามว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย เจ้ารักเราหรือ” เปโตรก็เป็นทุกข์ใจที่พระองค์ตรัสถามเขาครั้งที่สามว่า “เจ้ารักเราหรือ” เขาจึงทูลพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงทราบว่า ข้าพระองค์รักพระองค์” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงเลี้ยงแกะของเราเถิด
17 λέγει αὐτῷ τὸ τρίτον, Σίμων Ἰωάννου, φιλεῖς με; ἐλυπήθη ὁ Πέτρος ὅτι εἶπεν αὐτῷ τὸ τρίτον, Φιλεῖς με; καὶ λέγει αὐτῷ, Κύριε, πάντα σὺ οἶδας, σὺ γινώσκεις ὅτι φιλῶ σε. λέγει αὐτῷ [ὁ Ἰησοῦς], Βόσκε τὰ πρόβατά μου.
จากบทสนทนาในหนังสือยอห์นตอนนี้จะเห็นว่า ในภาษากรีก พระเยซูถามในภาษากรีกว่า "ἀγαπᾷς (อากาปาส)" หรือ "รักแท้" แค่ 2 ครั้ง แต่เปโตรกลับตอบ "φιλῶ" หรือ "ผมปลื้มคุณนะ (แบบเพื่อนกัน)" 2 ครั้ง
จนครั้งสุดท้ายพระเยซูจึงเปลี่ยนมาใช้ตามเปโตรว่า "φιλεῖς (ฟีลีส)" หรือ "แค่ปลื้มเราหรือ!"
ชีวิตจริงของหลายคน ก็คงเป็นแบบนี้เหมือนกัน หลายคนอาจแค่ปลื้มพระเยซู มองพระเยซูเป็นสหายยามที่เขาทุกข์โศกเศร้า หรือมองแค่พระองค์เป็นผู้มาช่วย แล้วจบกัน พอพระองค์ถามกลับ และให้ช่วยดูแลงานแทน กลับลังเลที่จะทำ...
ลองถามตัวเราเองว่า เราแค่ปลื้มพระเยซู หรือรักพระองค์จริงๆ!
*หมายเหตุ ส่วนคำว่า "αγάπη (อากาเป้, อากาปี)" เป็๋นคำนามนะครับ ไม่ใช่คำกริยา อาจมีบางท่านยังใช้ไม่ตรงหลักอยู่นะครับ ไหนๆ ก็ใช้ภาษากรีกสอนแล้ว ใช้ให้ตรงกันด้วยนะครับ
วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)