ค้นหาข้อมูลจากบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

มุมมองจากวันคริสตมาสแรก

เมื่อวานซืนผมไปที่คจ.มหาชล ไปงานปาร์ตี้ซึ่งจัดโดยคจ.แห่งสันติภาพ โดยอ.สวัสดิ์ เป็นคนเชิญไปร่วมฉลองเทศกาลคริสตมาสที่นั่น ขณะที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ก็มีความคิดแวบเข้ามาว่าถ้าหากจะแบ่งปันเรื่องวันคริสตมาสจะพูดเรื่องอะไร ก็รีบดึงข้อมูลจากสมองส่วนเก็บความจำ คลังพระคัมภีร์ เตรียมว่าหากเขาเชิญให้พูดก็จะแบ่งปัน แต่พอดีเวลาจำกัด กิจกรรมเยอะ เลยผ่านไป

แต่ความคิดนี้ยังคงวนเวียน จึงต้องนำมาเล่าผ่านบล็อกนี้เพื่อเก็บความทรงจำของตนเองเอาไว้ เพราะวันหนึ่้งคงจะหลงลืมตามวัยอันควร

ประเด็นที่จะเล่าคือ.. มีใครบ้างในคริสตมาสแรกที่รู้เรื่องการประสูติืของพระคริสต์.. แล้วเขาตอบสนองอย่างไร?

1. โหราจารย์ (นักปราชญ์)

น่าจะเป็นคนกลุ่มแรกที่รู้เรื่องนี้ เพราะพวกเขาใช้องค์ความรู้ทั้งหมดที่พวกเขาศึกษา และต้่องการพิสูจน์ความจริงตามที่ตำราว่าเอาไว้ จะว่าไป กลุ่มคนพวกนี้ก็ไม่ต่างจากพวกหมอดู อาศัยความรู้จากตำรา ตีความเอาเอง จนต้องไปถามถึงในวังของเฮโรด คือแม้จะมีความรู้ แต่ก็สุ่มๆ ไป ลองผิดลองถูก เหมือนนักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน คือทดลองไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบ ทั้งที่ความจริงมีอยู่แล้ว
แน่นอนว่าสุดท้าย คนกลุ่มนี้ก็ได้พบพระคริสต์ที่มาบังเกิดเป็นกษัตริย์ แล้วมอบของขวัญให้ตามกำลังทรัพย์ที่ตนเองนำมา
แต่กลับไม่สามารถไปเล่าให้ใครฟังต่อ เพราะความรู้ความเข้าใจของพวกเขาเป็นอันตรายต่อผู้อื่น
หมายความว่าความรู้ของพวกเขาเป็นภัยต่อผู้มาบังเกิด (ดูข้อต่อไป)

2. เฮโรด
ในคริสตมาสแรก เฮโรดก็เป็นอีกคนที่รู้เรื่องนี้ แต่เขาหงุดหงิด และโกรธ เพราะข่าวที่พวกโหราจารย์นำมาบอก นั่นหมายความว่าจะมีคนมาแทนที่เขา ในโลกนี้จะมีคนแบบนี้บ้างไหม ที่ไม่พอใจในองค์ความรู้ เมื่อมีคนที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลก เปลี่ยนชีวิตเรา เปลี่ยนทุกอย่างที่เราเคยทำ เปลี่ยนสารพัดที่เราชอบ และเราต้องหมดสิทธิ์ที่จะครอบครองสิ่งที่เรามีอยู่ โดยผู้มาใหม่จะมาแทนที่ทุกอย่าง
แน่นอนว่าเฮโรดไม่ชอบ และไม่เห็นด้วยกับกษัตริย์องค์ใหม่ที่มาพร้อมกับข่าวของเหล่านักปราชญ์ (โหราจารย์) ซ้ำยังวางแผนและกระทำการสังหารทารกแรกเกิดด้วยความอาฆาตด้วย ทั้งๆ ที่เด็กที่มาเกิดยังไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลย เรียกว่าพาลความจริง หรือเป็นคนประเภทไม่ยอมรับความจริง

3. คนเลี้ยงแกะ

ไม่น่าเชื่อเลยว่า สุดท้ายคนเลี้ยงแกะ (ชาวบ้าน) เป็นกลุ่มคนที่ได้รับข่าวดีนี้ และที่สำคัญทูตของพระเจ้าเองมาบอกข่าวกับพวกเขา และเขาก็ไปพบพระกุมารตามที่ทูตสวรรค์บอก


ผลตอบรับของคนกลุ่มนี้ ชัดเจน นั่นคือความยินดี และที่สำคัญ พวกเขาไปบอกคนอื่นๆ ในหมู่บ้านถึงข่าวดีในวันคริสตมาส และการบังเกิดของพระผู้ไถ่

บทสรุป ท่านคิดว่าท่านเป็นคนแบบไหน- ใช้ความรู้มาหาพระคริสต์ แต่สุดท้ายบอกใครก็ไม่ได้ ว่าได้พบพระคริสต์แล้ว ต้องกลับบ้านไปอย่างเงียบๆ
- ไม่พอใจข่าวดี ไม่อยากเปลี่ยนชีวิต ไม่อยากเปลี่ยนวิถีเดิมๆ อยากเป็นคนอย่างเดิม อย่ามายุ่งกับอาณาจักรของฉัน แบบเดียวเฮโรด และโกรธด้วยเมื่อคนมาเล่าเรื่องพระคริสต์เป็นพระเจ้า
- รู้แล้ว ต้องบอกต่อ อดไม่ได้ เพราะมันน่ายินดีจริงๆ แบบคนเลี้ยงแกะ (มีคน 33% ของโลกที่รับเรื่องนี้)
แล้วท่านล่ะ!...