ค้นหาข้อมูลจากบล็อกนี้

วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ตามรอยการเดินทางของเปาโล



จากหนังสือ "กิจการของอัครทูต" บทที่ 28
1 ครั้นรอดพ้นภัยแล้ว   พวกเราจึงรู้ว่าเกาะนั้นชื่อมอลตา
2 ฝ่ายชาวพื้นเมืองมีความกรุณาแก่พวกเราอย่างผิดปกติ   เขาก่อไฟรับรองเราเพราะฝนตกและหนาว
3 เปาโลเก็บกิ่งไม้แห้งมัดหนึ่งมาใส่ไฟ   มีงูพิษตัวหนึ่งออกมาเพราะถูกความร้อน   กัดมือของเปาโลติดอยู่
4 เมื่อพวกชาวพื้นเมืองนั้นเห็นงูติดห้อยอยู่ที่มือของเปาโล   จึงพูดกันว่า   “คนนี้คงเป็นผู้ฆ่าคนแน่นอน   ถึงแม้ว่ารอดพ้นจากทะเลแล้ว   เจ้าแม่แห่งความยุติธรรมก็ยังไม่ยอมให้รอดตายไปได้”
5 แต่เปาโลได้สะบัดมือให้งูตกลงไปในไฟ   และหาเป็นอันตรายประการใดไม่
6 ฝ่ายเขาทั้งหลายคอยดูอยู่   คิดว่าท่านจะบวมขึ้นหรือจะล้มลงตายทันที   แต่ครั้นเขาคอยดูอยู่ช้านานมิได้เห็นท่านเป็นอะไร   เขาจึงกลับถือว่าท่านเป็นพระ  
7 เจ้าแห่งเกาะนั้นชื่อปูบลิอัส   มีไร่นาอยู่ใกล้ตำบลนั้น   ท่านได้ต้อนรับเลี้ยงดูพวกเราไว้อย่างดีสามวัน  8 ฝ่ายบิดาของปูบลิอัสนั้นนอนป่วยอยู่   เป็นไข้และเป็นบิด   เปาโลจึงเข้าไปหาท่าน   อธิษฐานแล้ววางมือบนท่านรักษาให้หาย
9 ครั้นทำอย่างนั้นแล้ว   คนอื่นๆที่เกาะนั้นซึ่งมีโรคต่างๆก็มาหา   และเขาก็หายด้วย
10 เขาทั้งหลายจึงให้เกียรติพวกเราหลายประการ   เมื่อเราจะแล่นเรือไปจากที่นั่น   เขาจึงนำสิ่งของที่เราต้องการมาใส่เรือ
11 ครั้นล่วงไปสามเดือน   พวกเราจึงลงเรือกำปั่นซึ่งมาจากเมืองอเล็กซานเดรีย   และค้างอยู่ที่เกาะนั้นในฤดูหนาว   กำปั่นลำนั้นมีรูปราศี   “มิถุน”(แปลว่า  คนคู่)    เป็นเครื่องหมาย
12 พวกเราแวะที่เมืองไซราคิ้วส์จอดอยู่ที่นั่นสามวัน
13 เราออกจากที่นั่นอ้อมไปยังเมืองเรยีอูม   ครั้นรุ่งขึ้นลมทิศใต้ก็พัดมา   วันที่สองจึงมาถึงเมืองโปทิโอลี
14 เราพบพวกพี่น้องที่นั่น   และเขาเชิญเราให้หยุดพักอาศัยอยู่กับเขาเจ็ดวัน   แล้วเราจึงไปถึงกรุงโรม

สาวกที่พลีชีพเพื่อพระคริสต์

สาวกยุคแรก ยอมสละชีวิตของตนเพื่อการประกาศพระคริสต์

จะถูกสังหารแทบทั้งสิ้น

มัทธิว 26:35
เปโตรทูลพระองค์ว่า
“ถึงแม้ข้าพระองค์ จะต้องตาย กับพระองค์
ข้าพระองค์ก็จะไม่ปฏิเสธพระองค์เลย”
เหล่าสาวกก็ทูลเช่นนั้นเหมือนกันทุกคน

วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สิ่งก่อสร้างที่ติดหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก มีอยู่ในพระคัมภีร์ด้วยนะ

หากท่านอ่านหนังสือ "กิจการของอัครทูต" อาจจะพบเหตุการณ์ และชื่อเทพเจ้าของกรีก-โรมัน และที่สำคัญ มีอยู่ 2 แห่งที่สาวกของพระเยซูเคยไปเกี่ยวข้องโดยตรง มีสถานที่แห่งใดบ้างลองดูครับ

คนแต่งเรื่องเทพนิยายกรีก คือโฮเมอร์ครับ เป็นศิลปินตาบอด
ข้อพระคัมภีร์ยืมมาใช้ครับ เพราะดูเหมาะดี

วิหารแห่งเทพซุส อยู่ในสมัยพระคัมภีร์ด้วย
นี่คือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

เรื่องของ ซุส (โรมันเรียก จูปิเตอร์) ก็อยู่ในหนังสือกิจการ

เทพเจ้ากรีก ถูกแปลงให้เป็นเทพเจ้าของโรมันด้วย
ด้วยการแสนง่าย คือเปลี่ยนชื่อ

เปาโลและบารนาบัส ถูกเรียกว่าเทพเจ้า
เพราะทำการมหัศจรรย์ต่อหน้าที่สาธารณะ

เทพีอาร์เทมิส (โรมันเรียก ไดอาน่า) ก็อยู่ในหนังสือกิจการ

เป็นอีกแห่งที่ติดอันดับ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก


วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ที่ตั้งของพระวิหารหลังที่สาม ทั้ง 3 ทฤษฎี

หลังจากที่คำพยากรณ์ของรับไบพลากไปว่าพระวิหารหลังที่สาม จะถูกสร้างขึ้นหลังจากธรรมศาลาเฮอวาถูกซ่อมสร้างขึ้นในวันที่ 16 มีนาคม 2010 แต่ก็เลยมาแล้วสร้างปี และในวันที่ 26 สิงหาคม 2012 ก็จะครบรอบข่าวเรื่องการสร้างพระวิหารของชาวเมสัน (26 สค.1909) จึงนำภาพทฤษฎีที่ตั้งพระวิหารมาให้ชมกันครับ

ทฤษฎีแรก ที่ตั้งเดิมพระวิหารซ้อนทับกับโดมศิลา

ทฤษฎีนี้ พระวิหารอิงกับกำแพงร้องไห้ที่ยังเหลืออยู่

ทฤษฎีนี้อิงประตูทองคำทางทิศตะวันออก

ภาพนี้จะมองเห็นว่าประตูทองคำชัดเจน

หากเกิดสนธิสัญญา ภาพนี้ก็จะเกิดขึ้น

สันติสุขในเยรูซาเล็ม

ประตูทองคำที่เคยเปิด ตอนนี้ปิดสนิท

ประตูทองคำในปัจจุบัน

นี่แหละครับ ต้องไปให้ถึงที่

วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เยี่ยมโบสถ์เจริญกรุงไมตรีจิตร

อาทิตย์ที่ 5 สค. มาเยี่ยมโบสถ์เจริญกรุง เพราะอ.ดุสิตมาเทศน์ที่นี่

เพลงพิเศษด้วยเครื่องสาย

บรรยากาศในโบสถ์ครับ