ค้นหาข้อมูลจากบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Trailer นางไม้

ถ่ายไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีที่แล้ว จะฉายโรง วันที่ 2 กรกฎาคมปีนี้

ฉากที่ผมแสดงอยู่ในหนังตัวอย่างแวบหนึ่ง เป็นเจ้าหน้าที่ชื่อ "หมวดต้อย"

นี่ก็อีกฉาก
ผมไปแสดงหนังเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว แสดงเป็นเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ มาดูหนังตัวอย่าง ก็มีเสียงตัวเองด้วย รู้สึกแปลกๆ ดี เลยเอามาลงให้ดูกัน

ใครอยากดูหนังตัวอย่างก็คลิกไปดูได้ http://www.youtube.com/watch?v=bR6lS5eMpp0

อบรม PowerPoint 2007 ครั้งแรก


วันนี้ ผมไปสอนเทคนิคการทำ PowerPont 2007 และเทคนิคพิเศษกับการใช้โปรแกรมตัดต่อภาพมาใช้ร่วมกัน แม้มีคนเรียนน้อยกว่าที่คาดเอาไว้ แต่ทุกคนก็ได้รับประโยชน์จากการเรียนในครั้งนี้

บรรยายโลกร้อนที่โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ บางเขน

เด็กนักเรียน ม.2 กว่า 150 คนร่วมกิจกรรม "ภาวะโลกร้อนกับประเทศไทย"

เด็กๆ สนุกกับกิจกรรมของ ดร.นพ.ยุทธนา ภาระนันท์ 1 ในวิทยากรรับเชิญอีกคนที่คิดบทเรียนขึ้นมา
ผมบรรยายเรื่องการเดินทางของแสงอาทิตย์ที่ส่องมายังโลกที่ใช้เวลาเพียง 8 นาที

เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม 2009 มีนักเรียนชั้น ม.2 ประมาณ 4 ห้อง รวมประมาณ 150 คน ร่วมรับฟังและร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับ "ภาวะโลกร้อนกับประเทศไทย" ต้องขอขอบคุณสำนักเขีนบางเขน และบริษัทเบส แคร์ ทำกิจกรรมนี้ขึ้นมาเพื่อปลูกจิตสำนึกให้เด็กๆ คนรุ่นต่อไป เพราะวิกฤตน้ำแข็งขั้วโลกละลายเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

คริสเตียนคนแรกในเอเชีย

บารนาบัสเป็นคนดี ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และความเชื่อ
จำนวนคนเป็นอันมากก็เพิ่มเข้ากับคนขององค์พระผู้เป็นเจ้า บารนาบัสจึงไปหาเซาโลที่เมืองทาร์ซัส เมื่อพบแล้วจึงพามายังเมืองอันทิโอก
ท่านทั้งสองได้ประชุมกันกับคริสตจักรตลอดปีหนึ่ง ได้สั่งสอนคนเป็นอันมาก และในเมืองอันทิโอกนั่นเอง
พวกสาวกได้ชื่อว่า คริสเตียน เป็นครั้งแรก
กิจการ 11:24-26

ขอฝากคำทักทายมายังเอเปเนทัสที่รักของข้าพเจ้า ผู้เป็นคนแรกที่เข้ามาเชื่อในพระคริสต์ในแคว้นเอเชีย โรม 16:5

ผมกำลังเตรียมทำข้อมูลเพื่อการฟื้นฟูการประกาศในภูมิภาค (ประเทศไทย) เรียกโครงการว่า "เอเปเนทัส โปรเจค (Epaenetus Project)" เป็นการฝึกอบรมและเข้าใจการประกาศในเอเชียในยุคของเปาโลที่ทุ่มเทอย่างหนักถึง 3 เดือนในการฝึกอบรมกับพี่น้อง และพูดเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าถึง 2 ปี จนแคว้นเอเชีย (ปัจจุบันคือตุรกี) เกิดการเปลี่ยนแปลง ส่งผลอย่างมากมาย มีคริสตจักรเกิดขึ้นหลายแห่ง

โครงการนี้จะช่วยให้คริสเตียนไทยเข้าใจสถานการณ์ที่เหมือนๆ กัน ในขณะที่เปาโลเผชิญ เรียกได้ว่าประวัติศาสตร์ซ้ำรอย หากกระทำได้ตามนั้น จะทำให้ภูมิภาคนี้ได้รับการเปลี่ยนแปลงเฉกเช่นเดียวกับในอดีตเมื่อเกือบ 2000 ปี

เปาโลเข้าไปกล่าวสนทนาในธรรมศาลาด้วยใจกล้าสิ้นสามเดือน
ชักชวนให้เชื่อในสิ่งที่กล่าวถึงแผ่นดินของพระเจ้า แต่บางคนมีใจแข็งกระด้างไม่เชื่อ และพูดหยาบช้าเรื่องทางนั้น ต่อหน้าชุมนุมชน
เปาโลจึงแยกไปจากเขาและพาพวกสาวกไปด้วย แล้วท่านไปสนทนากันทุกวันในห้องประชุมของท่านผู้หนึ่งชื่อทีรันนัส
ท่านได้กระทำอย่างนั้นสิ้นสองปีจนชาวแคว้นเอเชีย
ทั้งพวกยิวและพวกกรีกได้ยินพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า
กิจการ 19:8-10

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

จากเอเดน สู่เอเชีย เส้นทางการเลื้อยของงูดึกดำบรรพ์


พระคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ 3 ข้อ 14-15 ได้บันทึกเรื่องของงูที่โดนสาปให้เลื้อยไป..

พระเจ้าจึงตรัสแก่งูว่า "เพราะเหตุที่เจ้าทำเช่นนี้ เจ้าจะต้องถูกสาปแช่งมากกว่าสัตว์ใช้งานและสัตว์ป่าทั้งปวง จะต้องเลื้อยไปด้วยท้อง จะต้องกินผงคลีดินจนตลอดชีวิต เราจะให้เจ้ากับหญิงนี้เป็นศัตรูกัน ทั้งพงศ์พันธุ์ของเจ้าและพงศ์พันธุ์ของเขาด้วย พงศ์พันธุ์ของหญิงจะทำให้หัวของเจ้าแหลก และเจ้าจะทำให้ส้นเท้าของเขาฟกช้ำ..

แล้วมันหายไปไหน?

ผมกำลังศึกษาหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ มีบางคจ.สนใจจองให้ไปบรรยายแล้ว โปรดติดตามเร็วๆ นี้ ประมาณเดือนหน้า

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

บรรยายโลกร้อนที่เขตบางเขน

ผมไปบรรยายเรื่องภาวะโลกร้อนที่สำนักเขตบางเขน กลุ่มผู้ฟังเป็นผู้ประกอบการและอาศัยในเขตนี้

ทางสำนักงานเขตได้จัดกิจกรรมนี้ร่วมกับบริษัท เบสท์ แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด

เลี้ยงอาหารที่ใช้ใบบัวเป็นภาชนะ เพื่อลดขยะจากกล่องโฟม

ผู้เข้าร่วมอบรมกินข้าวจากใบบัว เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และปลูกจิตสำนึกไปพร้อมๆ กัน

ขอบคุณพระเจ้าที่เปิดโอกาสให้ผมเป็นวิทยากรพิเศษ ได้ไปบรรยายเรื่อง "ภาวะโลกร้อน" ที่สำนักงานเขตบางเขน เป็นช่วงเวลาที่ดีมากที่ความรู้เชิงวิชาการถูกถ่ายทอดออกมาอย่างง่ายๆ และเข้าใจได้ไม่ยาก ภาพและสื่อต่างๆ ที่ได้นำมาเสนอ ถูกนำมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราว เล่าผ่านพระคำของพระเจ้าในพระคัมภีร์ และโยงใยเรื่องสถานการณ์ปัจจุบันของโลกได้อย่างลงตัว ศุกร์หน้า จะไปบรรยายที่โรงเรียนไทยนิยม บางเขน

วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

คัมภีร์โตราห์ กับคู่มือเบญจบรรณ


คัมภีร์โตราห์คือพระคัมภีร์ภาษาฮีบรู ซึ่งคริสเตียนไทยรู้จักกันในนาม "เบญจบรรณ" ในขณะที่ชาวคาทอลิกตั้งชื่อใหม่ว่า "ปัญจบรรพ" ซึ่งเป็นฉบับแปลของเขา ตอนนี้ทางสมาคมก็ออกฉบับคู่มือเพื่อศึกษาเบญจบรรณโดยเฉพาะ ซึ่งน่าสนใจมาก

ภาษาฮีบรูเรียก "โตราห์"

ภาษากรีกเรียก "เพนตาตุ๊ค"

ใครอยากรู้วัฒนธรรมชาวยิวก็อ่านเรื่องนี้มากๆ ก็จะเข้าใจมากขึ้น ว่าทำไมคนยิวถึงคิดอย่างนั้น ทำอย่างนี้ เกี่ยวข้องยังไงกับคริสเตียน ทำไมคริสเตียนถึงต้องศึกษาพระคัมภีร์เดิมซึ่งเป็นความเชื่อดั้งเดิมของชาวยิว เหตุเพราะพระเยซูและอัครสาวกเป็นยิวนั่นเอง

บรรยากาศงาน 61 ปีอิสราเอล

รวมภาพงาน 61 ปีอิสราเอล ที่ชาวยิวมาแบ่งปันที่ห้องประชุมเธียเตอร์ อาคารสภาคริสตจักร ผมก็ได้ถ่ายภาพเก็บไว้บางส่วน และเอาหนังสือส่วนตัวไปโชว์ด้วย เป็นพระคัมภีร์ภาษาฮีบรู และตำราอื่นๆ ที่ใช้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องราวของชาวยิว
งานเมื่อวันอาทตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2009
บรรยากาศในงานฉลองครบรอบ 61 ปี วันชาติอิสราเอลที่อาคารสภาคริสตจักร มีคนเข้าร่วมประชุมประมาณ 400 คน
หนังสือคู่มือค้นคว้าภาษาฮีบรู พจนานุกรม พระคัมภีร์ และคู่มือต่างๆ ซึ่งเป็นหนังสือสะสมของผมครับ

อาหารยิวที่บางคนไม่คุ้น แต่ก็กินได้ ส่วนตัวผมชอบที่ความแปลกและรสชาติกินได้หมดกล่อง

วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

หลังหนัง Angels & Demons จบ คริสเตียนเตรียมตอบคำถาม?

พยากรณ์ได้เลยว่าจะมีคำถามที่น่าจะถูกถามจากคนชมหนังเรื่องนี้คือ
  1. คริสเตียนสั่งฆ่านักวิทยาศาสตร์จริงหรือ?
  2. สมาคม "อิลลูมินาติ" คืออะไร และยังมีอยู่หรือเปล่า?
  3. วาติกันยังปิดบังเรื่องอะไรเอาไว้อีก?
  4. "เซิร์น" สร้างอนุภาคอย่างนั้นได้จริงเหรอ?

และคำถามอีกมากมายที่คริสเตียนจะถูกตั้งคำถาม และตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าหนังบอกอะไรกับคนดู สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ คนดูจะเชื่อทุกอย่างที่หนังบอก จึงตั้งคำถามอย่างนั้น และคิดว่าคริสเตียนรู้ หรือเก็บความลับนั้นอยู่ ซึ่งเรื่องแบบนี้มันเกิดมานานแล้วกว่า 300 ปี และเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงด้านความคิดทางวิทยาศาสตร์

มียุคหนึ่งที่ประชาชนในยุโรปตื่นกลัวเรื่องแม่มด เพราะอิทธิพลด้านการสื่อสารที่อ่อนแอ วิทยาศาสตร์ที่ยังไม่เติบโต ตำนานไสยเวทยังพอมีอยู่ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นอุบายเพื่อกำจัดคนที่คิดต่าง โดยยัดข้อหาแม่มดพ่อมด และมีข้อพระคัมภีร์สนุบสนุน ซึ่งทำให้มีหลายคนที่พฤติกรรมต่างออกไปถูกกำจัด โดยการทรมาน และเผาทั้งเป็น ในยุคของกาลิเลโอนั้นเป็นช่วงเปลี่ยนเช่นกัน สิ่งที่เขาสนับสนุนมาจากการเปลี่ยนแปลงทางศาสนาด้วย

โคเปอร์นิคัส เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นโปรเตสแตนท์ สิ่งที่เขาคิด คาทอลิกย่อมไม่ชอบ และเห็นต่าง แต่กาลิเลโอซึ่งเป็นคนที่รับค่าแรงจากวาติกันไปสนับสนุนความคิดนั้น ย่อมขัดแย้งเป็นธรรมดา จึงถูกสั่งให้กักบริเวณเขา ประวัติศาสตร์ที่บิดเบียนบอกว่าสั่งประหารชีวิตก็มี

รายละเอียดยังมีอีกมาก ไว้จะมาเล่าต่ออีกที

แนะนำหนังใหม่ (VCD)

ผมเพิ่งดูหนังแผ่นจบไปเรื่องหนึ่งชื่อเรื่องว่า "Saint Peter เซนต์ปีเตอร์ นักบุญบุตรสวรรค์" ชื่ออาจจะออกไปทางคาทอลิก แต่เนื้อหาก็สอดคล้องกับหนังสือกิจการอัครทูต และต่อเนื่องไปจนถึงตอนปีเตอร์ หรือเปโตรถูกตรึงกางเขนกลับหัว ซึ่งตอนนี้เป็นไปตามประวัติศาสตร์ แต่ไม่มีบันทึกในพระคัมภีร์ แม้แต่เรื่องเปาโลหรือปอลถูกสั่งตัดหัวเพราะเทศนาในกรุงโรม ในสมัยที่เนโรเป็นซีซาร์ ประมาณปี ค.ศ.60

สิ่งที่หนังทำออกมา ดูแล้วทำให้เข้าใจบรรยากาศในสมัยนั้นมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความเป็นยิวที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับชนชาติอื่น จนเปาโลเองเป็นผู้บุกเบิกความเชื่อให้คนต่างชาติ โดยเฉพาะชาวกรีกและโรมันในสมัยนั้น ส่งผลให้การประกาศออกไปทั่วโลกด้วย
ตอนจบของหนังมีภาพที่วาติกันแวบหนึ่ง หากใครไม่รู้ประวัติก็อาจจะงงว่ามาเกี่ยวอะไร จุดตรงที่เปโตรถูกตรึงกลับหัว ต่อมากลายเป็นที่ตั้งของวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่วาติกันนั่นเอง

ใครมีโอกาสได้ชมเรื่องนี้อาจจะลดความขัดแย้งลงได้บ้าง โดยเฉพาะเรื่องทัศนะว่าต้องเชื่อแบบนั้น หรือเชื่อแบบนี้จึงจะถูกต้อง ใครเชื่อต่างจากตัวเองผิดไปหมด บทเรียนจากเรื่องนี้ก็คือทุกคนเจตนาดี หวังดี และรักพระเจ้า แต่อาจลืมไปว่าคนอื่นเขาก็รักพระเจ้าเหมือนกัน แต่เขาคิดต่างจากเรา แต่งตัวต่างจากเรา สอนต่างจากเรา หรือแม้แต่เชื่อต่างจากเรา แต่จุดร่วมที่เหมือนกันก็คือ พระเจ้าทรงรักทุกคนเท่ากัน เหมือนกัน อย่าเอาความต่าง หรือวิธีการมาตัดสินคนอื่น หรือสงวนพื้นที่ของตนไว้ ทั้งๆ ที่ตนเองก็ไม่ได้ทำอะไรได้มากไปกว่านั้น..

วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ร่วมฉลอง 61 ปีอิสราเอล

ทีมงานของมูลนิธิสื่อใจไทย และอาสาสมัคร ร่วมประชุมวางแผนงานนี้เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่งานคองเกรสด้วย หวังว่าคริสเตียนไทยจะสนใจและร่วมงานนี้ จัดที่อาคารสภาคริสตจักร ชั้น 6 ที่สะพานหัวช้าง บ่ายวันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม ตั้งแต่ 13.30 น. เป็นต้นไปครับ

MGF ออกร้านที่งานคองเกรส 7


บรรยากาศในงานเป็นสนามกีฬาที่ดัดแปลงมาเป็นห้องจัดแสดงสินค้า สินค้าที่ขายดีที่สุด ก็คือเรื่องทูตสวรรค์ทั้ง 2 ชุด

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

บทเรียนจากผู้วินิจฉัย บทที่ 7 เรื่องกิเดโอน กับทหารแค่ 300

ที่นำเรื่องนี้มาเป็นบทเรียนก็เพราะ เมื่อมีการศึกษาเรื่องทูตสวรรค์ ได้มีบางคนกลัว ไม่กล้าขอทูตสวรรค์มาช่วยหรือใช้หนังสือ อีกทั้งยังบอกให้เพื่อนเลิกสนใจ และบางคนขอให้ผมเลิกสอนเพราะกลัวผมจะเพี้ยน เขาไม่มั่นใจ สับสน ซึ่งก็น่าเห็นใจ ใครที่กลัวที่จะศึกษาเรื่องนี้ ก็ควรดำเนินชีวิตตามปกติอย่างเดิมๆ แต่ใครที่คิดว่าจะสวมยุทธภัณฑ์ของพระเจ้า และเข้าสู่สงครามฝ่ายวิญญาณก็ควรค้นหาความจริงในเรื่องนี้..

(1) เยรุบบาอัล (คือกิเดโอน) และคนที่อยู่กับท่านก็ลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ ไปตั้งค่ายอยู่ที่ริมน้ำพุฮาโรด ฝ่ายค่ายของพวกมีเดียนอยู่ทางเหนือของเขา อยู่ในหุบเขาที่ภูเขาโมเรห์

(2) พระเจ้าตรัสกับกิเดโอนว่า "คนที่อยู่กับเจ้ายังมีมาก เกินที่เราจะมอบคนมีเดียนไว้ในมือของเขา เกรงว่าอิสราเอลจะทะนงตัวต่อเรา โดยกล่าวว่า "มือของเราเองได้กู้เราไว้"

(3) เพราะฉะนั้นจงประกาศให้เข้าหูคนทั้งปวงว่า 'ผู้ใดที่กลัวและสั่นเทิ้มอยู่ ก็ให้ผู้นั้นกลับเสียและไปจากภูเขากิเลอาด' " และมีคนกลับไปสองหมื่นสองพันคน และยังเหลืออยู่หนึ่งหมื่นคน

(4) พระเจ้าตรัสกับกิเดโอนว่า "ประชาชนยังมากอยู่จงพาเขาลงไปที่น้ำ และเราจะทำการทดสอบเขาให้เจ้าที่นั่น ผู้ที่เราจะบอกเจ้าว่า 'ให้คนนี้ไปกับเจ้า' ผู้นั้นต้องไปกับเจ้า ผู้ที่เราบอกว่า 'คนนี้อย่าให้ไป' ผู้นั้นไม่ต้องไป"

(5) ท่านจึงพาประชาชนลงไปที่น้ำ พระเจ้าตรัสกับกิเดโอนว่า "ทุกคนที่ใช้ลิ้นเลียน้ำดังสุนัข จงรวมเขาไว้พวกหนึ่ง ทุกคนที่คุกเข่าลงดื่มน้ำจงรวมไว้อีกพวกหนึ่งดุจกัน"

(6) จำนวนคนที่ใช้มือวักน้ำขึ้นเลียมีสามร้อยคน แต่ประชาชนนอกนั้นคุกเข่าลงดื่มน้ำ




(7) พระเจ้าตรัสกับกิเดโอนว่า "เราจะช่วยกู้เจ้าทั้งหลายด้วยจำนวนคนสามร้อย ที่เลียน้ำนั้น และมอบคนมีเดียนไว้ในมือของเจ้า นอกนั้นให้กลับไปบ้านเมืองของตนทุกคน"

(8) ประชาชนจึงถือเสบียงและเขาสัตว์ไว้ และท่านสั่งให้อิสราเอลกลับไปยังเต็นท์ของตนทุกคน แต่ให้สามร้อยคนนั้นอยู่ และค่ายของมีเดียนก็อยู่ข้างล่างท่านในหุบเขา

คำพยานเรื่องทูตสวรรค์

ดูเหมือนว่าช่วงนี้ ผมจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทูตสวรรค์เยอะมาก ทั้งทางตรงและทางอ้อม การสอนเรื่องนี้มีผล 2 ด้าน

ด้านแรกก็คือ ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากคนบางกลุ่ม บางทัศนะ บางความเชื่อที่แตกต่าง ซึ่งก็คงผ่านไป เพราะเราทำอย่างถูกต้อง และเชื่อในพระเจ้า
อีกด้าน คือ ได้รับการรองรับว่าสิ่งนี้เป็นจริง ซึ่งมาจากผู้มีประสบการณ์จริง และได้พบอีกทั้งยังพิสูจน์ด้วยตัวเขาเอง

คำพยานเรื่องนี้จึงมีหลากหลายรูปแบบ นับตั้งแต่ ขอทูตสวรรค์มาช่วยดูแลพ่อของเขา จนพ่อรับเชื่อในพระเจ้า หรือเรียกมาทั้ง 72 ชื่อ จนเกิดปรากฏการณ์ประหลาด และรู้ว่าไม่ควรเรียกมาเฉยๆ อีกบางท่านยังใช้ไปตรวจสอบวันเดือนของโบสถ์ และพบลักษณะของโบสถ์ (หมายถึงนิสัยของผู้คนหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายใน) บางท่านสามารถนำวิธีการไปใช้และเกิดผล และค้นหาวิธีการได้ด้วยตนเอง จนกระทั่งเกิดประโยชน์

ทำให้รู้ว่าสิ่งนี้ ไม่ใช่ทุกคนสามารถรับได้ และมีเพียงน้อยคนนักที่จะเข้าใจ เฉกเช่นเดียวกับบุคคลในพระคัมภีร์ ผู้พยากรณ์ในอดีต การต่อต้านและมองเห็นต่างกัน จึงเป็นเรื่องที่ย่อมเกิดขึ้นได้ และจะเกิดขึ้นอีก

ตัวอย่างจากเรื่องกิเดโอน ซึ่งเขาใช้ทหารเพียง 300 คนเท่านั้น ในสงครามของอิสราเอล

คำพูดของพี่น้องที่เอ่ยมาว่า "คนที่มีหัวใจและเข้าใจเรื่องอิสราเอล และยุคสุดท้ายเท่านั้น ถึงจะเข้าใจเรื่องทูตสวรรค์"!

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ศาสนศาสตร์เรื่องทูตสวรรค์


ศาสนศาสตร์เรื่องทูตสวรรค์ไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือเรื่องลึกลับ แต่สามารถหาอ่านได้จากหนังสือ "ศาสนศาสตร์ระบบ" ของ เฮ็นรี่ แคลเรนซ์ ทีเซ่น ตีพิมพ์โดย กนกบรรณสาร

ซึ่งขอคัดลอกมาให้อ่านกัน สำหรับบางท่านอาจจะไม่คุ้นเคยการศึกษาเรื่องทูตสวรรค์ เพราะบางโบสถ์ไม่ได้สอนกันด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เชิญอ่านได้เลยครับ.. คิดลอกมาจากหน้า 181-182...

เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่เราควรจะศึกษาหลักคำสอนเรื่องทูตสวรรค์ต่อจากเรื่องพระเจ้า เพราะว่าทูตสวรรค์เป็นผู้รับใช้พระเจ้าในราชกิจการทรงจัดเตรียมของพระองค์ ถึงแม้ว่าพระคัมภีร์กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ไม่น้อยเลย แต่โดยทั่วไปแล้วเรื่องทูตสวรรค์กลับถูกละเลยมากในสมัยนี้ จนบางคนเกือบปฏิเสธเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ทั้งนี้เพราะสาเหตุหลายประการด้วยกัน

ประการแรก พวกไญยนิยม (Gnostic) มักจะนมัสการทูตสวรรค์ (คส.2:18)

ต่อมาก็มีความคิดเพ้อเจ้อแบบสคอลาสซิซึม (Scholasticism) ซึ่งเป็นปรัชญาระบบหนึ่งที่สอนกันในสมัยกลาง

ในยุคหลังๆ มีความเชื่อเกี่ยวกับพ่อมดหมอผีมากเกินไป

และประการสุดท้ายการนมัสการภูติผีปีศาจและลัทธิซาตานเพิ่มขึ้นมากมายในสมัยของเรา

แต่เราก็มีเหตุผลหลายประการสนับสนุนความเชื่อในเรื่องทูตสวรรค์ กล่าวคือ

(1) เรื่องทูตสวรรค์มีจริง และงานทูตสวรรค์ มีสอนมากมายในพระคัมภีร์ พระเยซูเองทรงกล่าวถึงเรื่องนี้ไม่น้อยเลย และเราไม่ควรเมินเฉยต่อคำสอนของพระองค์โดยถือว่ารู้ดีกว่าพระองค์

(2) หลักฐานจากปรากฏการณ์ที่มีผีสิง ผีรบกวน และการบูชาภูติผีปีศาจเป็นข้อสนับสนุนว่าทูตสวรรค์มีจริง เปาโลเองถือว่าการไหว้รูปเคารพเป็นการนมัสการผี (1 โครินธ์ 10:20-21) ในวาระสุดท้ายการไหว้รูปเคารพและการถือภูติผีปีศาจจะยิ่งแพร่หลายมากยิ่งขึ้น (วิวรณ์ 9:20-21)

(3) ความสนใจในเรื่องคนทรง และการติดต่อกับคนที่ตายแล้ว ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเข้าใจคำสอนเรื่องทูตสวรรค์มากยิ่งขึ้น พระคัมภีร์ห้ามเล่นไสยศาสตร์ การทรงผี และการใช้เวทมนตร์คาถา (เฉลยธรรมบัญญัติ 18:10-12, อิสยาห์ 8:19-20) และสิ่งเหล่านี้จะทวีขึ้นในวาระสุดท้ายเช่นกัน (1 ทิโมธี 4:1)

และ (4) เราต้องเข้าใจงานของซาตานและวิญญาณชั่วที่ขัดขวางงานของพระเจ้าในจิตใจของเราและในโลกนี้ทั่วไป เพื่อเราจะเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับมันในอนาคตได้ และเพื่อจะมีความแน่ใจว่า ในไม่ช้ามันจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ (ปฐมกาล 3:15, โรม 16:20, วิวรณ์ 12:7, 20:1-10)

เราจะแบ่งเรื่องทูตสวรรค์ออกเป็นสองภาค คือ
(1) ต้นกำเนิด ลักษณะ การล้มลงในบาป และประเภทต่างๆ ของทูตสวรรค์
(2) งานและจุดจบของทูตสวรรค์