โบอาส บุรุษแห่งความเมตตา (นางรูธ 2:1-12)
ในช่วงสมัยของผู้วินิจฉัย ซึ่งเป็นยุคแห่งความวุ่นวายและความเสื่อมถอยฝ่ายวิญญาณ มีบุรุษคนหนึ่งที่ยืนหยัดในความสัตย์ซื่อและความชอบธรรม เขาคือ โบอาส ผู้มั่งคั่งจากเบธเลเฮมในเผ่ายูดาห์ ชื่อของเขาหมายถึง "กำลัง" หรือ "ความว่องไว" และชีวิตของเขาก็สะท้อนความหมายของชื่อนั้นอย่างแท้จริง
เราพบโบอาสครั้งแรกใน นางรูธ บทที่ 2 หลังจากที่รูธ สตรีชาวโมอับตามนางนาโอมีแม่ผัวของนางกลับมายังอิสราเอล รูธเป็นหญิงต่างชาติ เป็นม่าย และยากจน แต่เธอมีความจงรักภักดีและพร้อมทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว นางจึงเข้าไปเก็บเศษข้าวในนาของโบอาสโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นญาติฝ่ายสามีของนาโอมี
โบอาสเมื่อเห็นรูธก็ตั้งใจฟังถึงเรื่องราวของเธอ เขารู้ว่าเธอเป็นหญิงที่ละทิ้งบ้านเมืองและพระของตน มายึดถือพระเจ้าของอิสราเอลและปรนนิบัติแม่ผัวอย่างสุดหัวใจ โบอาสจึงกล่าวกับนางว่า:
“ขอพระยาห์เวห์ทรงตอบแทนการกระทำของเจ้า และขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของชนชาติอิสราเอล ซึ่งเจ้าเข้ามาพึ่งพระบารมีของพระองค์นั้น ประทานบำเหน็จบริบูรณ์แก่เจ้า” นางรูธ 2:12
โบอาสไม่ได้เป็นเพียงคนพูดดี แต่เขาแสดงออกถึง ความเมตตาในทางปฏิบัติ เขาสั่งให้คนงานไม่รังแกนาง ให้นางได้เก็บข้าวอย่างปลอดภัย และแม้ในเวลาพัก ก็เชิญนางมากินอาหารร่วมกับเขา เขาปฏิบัติต่อรูธในฐานะของมนุษย์ที่มีค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า ไม่ใช่เพียงแค่หญิงม่ายต่างชาติ
แต่ความเป็นบุรุษแห่งเมตตาของโบอาสไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อรูธมาขอให้เขาทำหน้าที่ "ผู้ไถ่" ตามธรรมเนียมของชาวยิว โบอาสก็ไม่ลังเล เขายินดีรับหน้าที่นั้นโดยเต็มใจ ทั้งแม้จะมีญาติอีกคนที่มีสิทธิก่อน โบอาสก็จัดการเรื่องนี้อย่างซื่อตรง เปิดเผย และให้เกียรติรูธอย่างที่สุด สุดท้ายเขาได้แต่งงานกับรูธ และทั้งสองก็กลายเป็นบรรพบุรุษของดาวิด และในเวลาต่อมาก็เป็นต้นตระกูลของพระเมสสิยาห์ คือพระเยซูคริสต์
โบอาสจึงเป็นภาพของพระคริสต์อย่างชัดเจน
- เขาเป็น "เจ้านายแห่งการเก็บเกี่ยว" เหมือนพระเยซูผู้เป็นเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยววิญญาณ
- เขาเป็น "ผู้ไถ่" ผู้รับเอาภาระและสิทธิตามกฎหมายเพื่อไถ่ผู้ที่ไร้พลังจะไถ่ตนเอง
- เขาเป็น "เจ้าบ่าว" ที่รับหญิงต่างชาติซึ่งถูกมองว่าต่ำต้อย มาเป็นภรรยาอย่างมีเกียรติ
ข้อคิดสำหรับคริสเตียนในปัจจุบัน
ชีวิตของโบอาสชี้ให้เราเห็นว่า ความชอบธรรมไม่ใช่แค่การหลีกเลี่ยงความผิดบาป แต่คือการกระทำความดีโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เป็นการแสดงความเมตตาออกมาด้วยหัวใจที่ยำเกรงพระเจ้า คริสเตียนทุกคนจึงควรถามตนเองเสมอว่า
- เราแสดงน้ำพระทัยของพระเจ้าในชีวิตประจำวันอย่างไร?
- เราเห็นคุณค่าของคนรอบข้าง แม้เขาจะแตกต่างจากเราหรือไม่?
- เรากำลังเป็น "ผู้ไถ่" ในความหมายของการช่วยเหลือผู้อื่นในยามยากหรือเปล่า?
ขอให้เราทุกคนเป็นเหมือนโบอาส — บุรุษแห่งความเมตตา ที่สะท้อนพระลักษณะของพระคริสต์ผ่านการดำเนินชีวิตของเราในแต่ละวัน
อาเมน