ค้นหาข้อมูลจากบล็อกนี้

วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

หลังหนัง Angels & Demons จบ คริสเตียนเตรียมตอบคำถาม?

พยากรณ์ได้เลยว่าจะมีคำถามที่น่าจะถูกถามจากคนชมหนังเรื่องนี้คือ
  1. คริสเตียนสั่งฆ่านักวิทยาศาสตร์จริงหรือ?
  2. สมาคม "อิลลูมินาติ" คืออะไร และยังมีอยู่หรือเปล่า?
  3. วาติกันยังปิดบังเรื่องอะไรเอาไว้อีก?
  4. "เซิร์น" สร้างอนุภาคอย่างนั้นได้จริงเหรอ?

และคำถามอีกมากมายที่คริสเตียนจะถูกตั้งคำถาม และตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าหนังบอกอะไรกับคนดู สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ คนดูจะเชื่อทุกอย่างที่หนังบอก จึงตั้งคำถามอย่างนั้น และคิดว่าคริสเตียนรู้ หรือเก็บความลับนั้นอยู่ ซึ่งเรื่องแบบนี้มันเกิดมานานแล้วกว่า 300 ปี และเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงด้านความคิดทางวิทยาศาสตร์

มียุคหนึ่งที่ประชาชนในยุโรปตื่นกลัวเรื่องแม่มด เพราะอิทธิพลด้านการสื่อสารที่อ่อนแอ วิทยาศาสตร์ที่ยังไม่เติบโต ตำนานไสยเวทยังพอมีอยู่ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นอุบายเพื่อกำจัดคนที่คิดต่าง โดยยัดข้อหาแม่มดพ่อมด และมีข้อพระคัมภีร์สนุบสนุน ซึ่งทำให้มีหลายคนที่พฤติกรรมต่างออกไปถูกกำจัด โดยการทรมาน และเผาทั้งเป็น ในยุคของกาลิเลโอนั้นเป็นช่วงเปลี่ยนเช่นกัน สิ่งที่เขาสนับสนุนมาจากการเปลี่ยนแปลงทางศาสนาด้วย

โคเปอร์นิคัส เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นโปรเตสแตนท์ สิ่งที่เขาคิด คาทอลิกย่อมไม่ชอบ และเห็นต่าง แต่กาลิเลโอซึ่งเป็นคนที่รับค่าแรงจากวาติกันไปสนับสนุนความคิดนั้น ย่อมขัดแย้งเป็นธรรมดา จึงถูกสั่งให้กักบริเวณเขา ประวัติศาสตร์ที่บิดเบียนบอกว่าสั่งประหารชีวิตก็มี

รายละเอียดยังมีอีกมาก ไว้จะมาเล่าต่ออีกที

แนะนำหนังใหม่ (VCD)

ผมเพิ่งดูหนังแผ่นจบไปเรื่องหนึ่งชื่อเรื่องว่า "Saint Peter เซนต์ปีเตอร์ นักบุญบุตรสวรรค์" ชื่ออาจจะออกไปทางคาทอลิก แต่เนื้อหาก็สอดคล้องกับหนังสือกิจการอัครทูต และต่อเนื่องไปจนถึงตอนปีเตอร์ หรือเปโตรถูกตรึงกางเขนกลับหัว ซึ่งตอนนี้เป็นไปตามประวัติศาสตร์ แต่ไม่มีบันทึกในพระคัมภีร์ แม้แต่เรื่องเปาโลหรือปอลถูกสั่งตัดหัวเพราะเทศนาในกรุงโรม ในสมัยที่เนโรเป็นซีซาร์ ประมาณปี ค.ศ.60

สิ่งที่หนังทำออกมา ดูแล้วทำให้เข้าใจบรรยากาศในสมัยนั้นมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความเป็นยิวที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับชนชาติอื่น จนเปาโลเองเป็นผู้บุกเบิกความเชื่อให้คนต่างชาติ โดยเฉพาะชาวกรีกและโรมันในสมัยนั้น ส่งผลให้การประกาศออกไปทั่วโลกด้วย
ตอนจบของหนังมีภาพที่วาติกันแวบหนึ่ง หากใครไม่รู้ประวัติก็อาจจะงงว่ามาเกี่ยวอะไร จุดตรงที่เปโตรถูกตรึงกลับหัว ต่อมากลายเป็นที่ตั้งของวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่วาติกันนั่นเอง

ใครมีโอกาสได้ชมเรื่องนี้อาจจะลดความขัดแย้งลงได้บ้าง โดยเฉพาะเรื่องทัศนะว่าต้องเชื่อแบบนั้น หรือเชื่อแบบนี้จึงจะถูกต้อง ใครเชื่อต่างจากตัวเองผิดไปหมด บทเรียนจากเรื่องนี้ก็คือทุกคนเจตนาดี หวังดี และรักพระเจ้า แต่อาจลืมไปว่าคนอื่นเขาก็รักพระเจ้าเหมือนกัน แต่เขาคิดต่างจากเรา แต่งตัวต่างจากเรา สอนต่างจากเรา หรือแม้แต่เชื่อต่างจากเรา แต่จุดร่วมที่เหมือนกันก็คือ พระเจ้าทรงรักทุกคนเท่ากัน เหมือนกัน อย่าเอาความต่าง หรือวิธีการมาตัดสินคนอื่น หรือสงวนพื้นที่ของตนไว้ ทั้งๆ ที่ตนเองก็ไม่ได้ทำอะไรได้มากไปกว่านั้น..