ครั้งหนึ่ง พวกสาวกถกเถียงกันว่าใครจะเป็นใหญ่ (มก.9:34) พระเยซูจึงนำเด็กมาให้พวกเขาดู และกล่าวว่า “ถ้าใครต้องการจะเป็นคนแรก ก็ให้คนนั้นเป็นคนสุดท้าย และเป็นคนปรนนิบัติคนทั้งหลาย”
แต่สาวกก็ยังไม่เข้าใจ ยิ่งหนักกว่าเดิม (มก.10:35) ยอห์นกับยากอบขอเป็นใหญ่รองจากพระเยซู
พระเยซูจึงตรัสกับเขาทั้งสองว่า “พวกท่านไม่เข้าใจ สิ่งที่พวกท่านขอ ถ้วยที่เราดื่มนั้นพวกท่านดื่มได้หรือ? และบัพติศมาที่เรารับ พวกท่านจะรับได้หรือ?” (มก. 10:38)
ถ้าใครต้องการจะเป็นนาย คนนั้นจะต้องเป็นทาสของคนทั้งหลาย (มก.10:44)
สุดท้ายพระเยซูต้องทำอะไรบางอย่างให้พวกเขาเข้าใจจริงๆ
(ยน. 13:12-14) เมื่อพระองค์ทรงล้างเท้าของพวกเขาแล้ว พระองค์ก็ทรงฉลองพระองค์แล้วประทับลงตรัสกับเขาว่า “พวกท่านเข้าใจสิ่งที่เราทำกับท่านหรือไม่? พวกท่านเรียกเราว่าพระอาจารย์และองค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านเรียกถูกแล้ว เพราะเราเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นถ้าเราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระอาจารย์ยังล้างเท้าของพวกท่าน ท่านก็ควรจะล้างเท้าของกันและกันด้วย"
บ่อยครั้ง ที่คนอยากเป็นครู อยากสอนผู้อื่น แต่มักจะเพียงแค่สั่ง แค่สอน ไม่ได้ดูว่าลูกศิษย์เข้าใจในสิ่งที่ตนสอนหรือไม่ แต่พระเยซูท่านสอน ท่านสั่ง และสุดท้ายกระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เพราะศิษย์ไม่เข้าใจ
คำสอนที่เป็นนามธรรมอาจเข้าใจยากสำหรับบางคน แต่คำสอนที่เป็นรูปธรรม หรือทำให้ดู จะจดจำง่ายกว่า
ขอยกย่องครูทุกท่าน ผู้สนใจในศิษย์ของตน กระทั่งเป็นต้นแบบที่ดี
Natthanan Sonprint เขียน
16.1.19