ค้นหาข้อมูลจากบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

"อับราม" ออกจากเมืองเออร์ สู่คานาอัน และอียิปต์


"อับราม" ออกจากเมืองเออร์เพราะเมืองนั้นนมัสการเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ ดวงดาว และดวงอาทิตย์ ตามคำท้าทายของพระเจ้า

ในปฐมกาล บทที่ 12 ข้อ 1 พระเจ้าตรัสแก่อับรามว่า “เจ้าจงออกจากเมือง จากญาติพี่น้อง จากบ้านบิดาของเจ้า ไปยังดินแดนที่เราจะบอกให้เจ้ารู้
ข้อ 2 เราจะให้เจ้าเป็นชนชาติใหญ่ เราจะอวยพรแก่เจ้า จะให้เจ้ามีชื่อเสียงใหญ่โตเลื่องลือไป แล้วเจ้าจะช่วยให้ผู้อื่นได้รับพร
ข้อ 3 เราจะอำนวยพรแก่คนที่อวยพรเจ้า เราจะสาปคนที่แช่งเจ้า บรรดาเผ่าพันธุ์ทั่วโลกจะได้พรเพราะเจ้า”
ข้อ 4 ฝ่ายอับรามก็ไปตามพระดำรัสของพระเจ้า โลทก็ไปด้วย เมื่ออับรามออกจากเมืองฮารานนั้น อายุได้เจ็ดสิบห้าปี
ข้อ 5 อับรามพานางซารายภรรยาของตน กับโลทบุตรของน้องชายและทรัพย์สมบัติที่ได้สะสมไว้ ทั้งบรรดาผู้คนที่ได้ไว้ที่เมืองฮารานนั้นออกเดินทาง ไปยังแผ่นดินคานาอัน เมื่อไปถึงแคว้นคานาอันแล้ว
ข้อ 6 อับรามก็เดินผ่านเขตแดนมาถึงสถานที่เมืองเชเคม คือ ที่ต้นก่อหลวง ณ โมเรห์ คราวนั้นคนคานาอันอยู่ที่แผ่นดินนั้น
ข้อ 7 พระเจ้าทรงสำแดงพระองค์ให้ปรากฏแก่อับราม ตรัสว่า “ดินแดนนี้เราจะยกให้พงศ์พันธุ์ของเจ้า” อับรามสร้างแท่นที่นั่นถวายบูชาแก่พระเจ้าผู้สำแดงพระองค์ ให้ปรากฏแก่ท่าน
ข้อ  8 อับรามย้ายไปจากที่นั่น  มาถึงภูเขาทางทิศ ตะวันออกของเมืองเบธเอล   จึงตั้งเต็นท์อยู่ที่นั่น   ให้เมืองเบธเอลอยู่ทางทิศตะวันตกและเมืองอัยอยู่ทิศตะวันออก   ส่วนท่านสร้างแท่นบูชาพระเจ้าที่นั่น   และนมัสการออกพระนามพระเจ้า

นับเป็นการท้าทายอย่างมากกับการที่อับรามต้องออกจากบ้านเกิดเมืองนอนที่เมืองเออร์ ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์เพราะมีแม่น้ำไทกริส และแม่น้ำยูเฟรติส อับรามคงไม่นิยมการบูชาเทพเจ้าจึงยอมออกจากเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปยังดินแดนอื่นที่ไม่รู้จัก


แม้แต่อับรามก็เคยกลัวตายเหมือนกัน

ในปฐมกาล บทที่ 12 ข้อ 9 แล้วอับรามก็เดินทางต่อไป ยกเต็นท์เดินทางเรื่อยไปเป็นระยะๆยังเนเกบ (ที่ใต้ เมืองใต้)
ข้อ 10 เกิดกันดารอาหารที่แคว้นคานาอัน อับรามจึงไปอาศัยอยู่ที่ประเทศอียิปต์ ด้วยว่าในคานาอันอดอยากอาหารนัก
ข้อ 11 เมื่อใกล้จะเข้าอียิปต์ อับรามก็พูดกับนางซารายภรรยาว่า “ฉันรู้ว่าเจ้าเป็นหญิงรูปงาม
ข้อ 12 เมื่อคนอียิปต์เห็นเจ้า เขาจะว่า 'หญิงคนนี้เป็นภรรยาของเขา' แล้วก็จะฆ่าฉันเสีย แต่จะไว้ชีวิตเจ้า
ข้อ 13 ขอให้บอกว่าเจ้าเป็นน้องสาวของฉัน เพื่อฉันจะได้รับการต้อนรับอย่างดีเพราะเจ้า และเขาจะไว้ชีวิตฉันเพราะเจ้า”
ข้อ 14 เมื่ออับรามเข้าไปในอียิปต์แล้ว คนอียิปต์ก็เห็นว่านางมีรูปร่างงามนัก
ข้อ 15 เมื่อพวกจ้านายของฟาโรห์ (พระราชาทุกๆ องค์ของอียิปต์ มิใช่พระนามเฉพาะ) เห็นนางแล้ว ก็ทูลยกย่องนางนั้นให้ฟาโรห์ทราบ เขาจึงพานางไปอยู่ในวังของฟาโรห์
ข้อ 16 ฝ่ายฟาโรห์ก็โปรดปรานอับรามมากเพราะเห็นแก่นางนั้น อับรามก็ได้แกะ วัว ลาผู้ ทาส ทาสี ลาตัวเมีย และอูฐจำนวนมาก
ข้อ 17 แต่พระเจ้าทรงทำให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงต่างๆ แก่ฟาโรห์ และราชวงศ์ของท่าน เพราะเรื่องนางซารายภรรยาของอับราม
ข้อ 18 ฟาโรห์จึงเรียกอับรามมา ตรัสว่า “ทำไมเจ้าทำแก่เราอย่างนี้เล่า ทำไมเจ้ามิได้บอกเราว่านางเป็นภรรยาของเจ้า
ข้อ 19 ทำไมเจ้าว่า 'เธอเป็นน้องสาวของข้าพระบาท' เราจึงเลี้ยงนางไว้เพื่อเป็นภรรยาของเรา นี่แน่ะภรรยาของเจ้า จงรับไปแล้วออกไปเถิด”
ข้อ 20 ฟาโรห์จึงรับสั่งให้พวกคนใช้เอาใจใส่อับราม พวกคนใช้จึงนำอับรามเดินทางกลับไป พร้อมกับภรรยาและทรัพย์สมบัติทั้งหมดของท่าน