ค้นหาข้อมูลจากบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การรับขึ้นไป Rapture มีกี่ครั้งกันแน่? ในพระคัมภีร์ (ประเด็นคาใจของคริสตชน)

มีเพื่อนๆ พี่น้องหลายคนถามกันว่า การรับขึ้นไป (Rapture) มีกี่ครั้ง บ้างก็ว่า 4 ครั้ง บางก็ว่า 3 หรือ 2 ครั้ง แถมยังมีข้อพระคัมภีร์มาสนับสนุนความคิดหรือคำสอนของตน มีหลายคนพึงพอใจกับคำตอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับขึ้นไปก่อนกลียุค จะได้ไม่ต้องเผชิญความทุกข์ยากลำบาก

สอนกันหลายคณะหลายโบสถ์ครับ ดูดีด้วย ไม่ต้องลำบาก แต่จริงๆ แล้ว ยังไม่มีข้อพระคัมภีร์สนับสนุนชัดๆ เลยครับ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ลองมาดูตัวอย่างที่อ้างๆ กันมา...

1. อยู่ใน มัทธิว บทที่ 24 ข้อ 40 "เวลา​นั้น​ชาย​สอง​คน​อยู่​ที่​ทุ่ง​นา จะ​ถูก​รับ​ไป​คน​หนึ่ง และ​ถูก​ละ​ทิ้ง​ไว้​คน​หนึ่ง ข้อ 41 หญิง​สอง​คน​โม่​แป้ง​อยู่​ด้วย​กัน จะ​ถูก​รับ​ไป​คน​หนึ่ง ถูก​ละ​ทิ้ง​ไว้​คน​หนึ่ง" โดยสอนว่านี่คือการรับขึ้นไปครั้งแรก โดยเลือกรับแต่คริสเตียนที่ได้รับชัยชนะ

ต้องอ่านทั้งบริบท ในตอนนี้บอกว่า มารับตอนบุตรมนุษย์เสด็จมา
แต่จริงๆ แล้วพระคัมภีร์ตอนนี้ต้องดูทั้งบริบท และดูในข้อที่ 37 และ 39 ที่กล่าวว่า "...เมื่อ​บุตร​มนุษย์​เสด็จ​มา​ก็​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น" อ่านแล้วตีความง่ายๆ ตรงๆ เลยครับว่า "บุตรมนุษย์" หรือ "พระเยซู" ต้อง "เสด็จมาก่อน" ถึงจะมี "การรับขึ้นไป"

จึงต้องตั้งคำถามกลับว่า จริงๆ แล้ว พระเยซูจะเสด็จกลับมากี่ครั้ง? ถ้าคำตอบคือ 4 ครั้่ง การรับขึ้นไปก็คงมี 4 ครั้ง แค่ถ้าคำตอบคือ "ครั้งเดียว" คำตอบก็คือ "ครั้งเดียว" เหมือนกัน

2. มีการอ้างถึง วิวรณ์ บทที่ 7 เกี่ยวกับคนยิว 144,000 คน ว่าคือ การรับขึ้นไป ครั้งที่ 2 อีกด้วย  อ่านดูเผินๆ ก็เหมือนจะเป็นเช่นนั้น แต่จริงๆ แล้ว คนเหล่านี้มีที่มาที่ไปครับ...




อ่านดีๆ ตอนนี้ก็เล็งถึง "กลียุค" (ความทุกข์เวทนาครั้งใหญ่)
ถ้าอ่านทบทวนดีๆ จะพบว่าข้อพระคัมภีร์ตอนนี้โยงกับวิวรณ์ บทที่ 6 ข้อ 9-11 ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีผู้เชื่อถูกฆ่าตายเพราะพระวจนะของพระเจ้าจนครบจำนวน และได้สวมเสื้อสีขาว (ไม่เกี่ยวกับการรับขึ้นไปเลย)




3. มีการอ้างถึง วิวรณ์ บทที่ 12 ว่าหมายถึงผู้เชื่อในพระคริสต์ แต่ข้อนี้ เล็งถึงพระเยซู โดยตรง ในบทที่ 12 ข้อ 5 บุตรชาย ผู้ซึ่งจะครอบครองประชาชาติ ไม่ใช่ผู้เชื่อ อย่างที่ตีความกันไปเองว่าคือ การรับขึ้นไปครั้งที่ 3


4. แน่นอนว่า การรับขึ้นไป จึงมีเพียงครั้งเดียวก่อนการขันที่ 7 ซึ่งอยู่ในวิวรณ์ บทที่ 16 ข้อ 15 เพราะขันสุดท้ายคือการล้างโลกเลยทีเดียว


ส่วนข้อพระคัมภีร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับขึ้นไป ลองอ่านดูครับ

1 คร. 15:52
ใน​ชั่ว​ขณะ​เดียว ใน​พริบ​ตา​เดียว เมื่อ​เป่า​แตร​ครั้ง​สุด​ท้าย เพราะ​ว่า​จะ​มี​การ​เป่า​แตร และ​พวก​ที่​ตาย​แล้ว​จะ​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​โดย​ปราศ​จาก​ความ​เสื่อม​สลาย แล้ว​เรา​จะ​ถูก​เปลี่ยน​ใหม่

1 ธส. 4:16
คือ​ว่า​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จะ​เสด็จ​มา​จาก​สวรรค์​ด้วย​พระ​ดำ​รัส​สั่ง ด้วย​เสียง​เรียก​ของ​หัว​หน้า​ทูต​สวรรค์​และ​ด้วย​เสียง​แตร​ของ​พระ​เจ้า และ​ทุก​คน​ที่​ตาย​แล้ว​ใน​พระ​คริสต์​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​ก่อน

วว. 11:15
แล้ว​ทูต​สวรรค์​องค์​ที่​เจ็ด​ก็​เป่า​แตร​ขึ้น และ​มี​เสียง​หลายๆ เสียง​กล่าว​ขึ้น​ดังๆ ใน​สวรรค์​ว่า “อา​ณา​จักร​ของ​โลก​นี้​กลับ​กลาย​เป็น​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา​แล้ว และ​เป็น​ของ​พระ​คริสต์​ของ​พระ​องค์ และ​พระ​องค์​จะ​ทรง​ครอบ​ครอง​ตลอด​ไป​เป็น​นิตย์” ​

การเป่าแตรมาจากทูตสวรรค์ มาพร้อมกับการเสด็จกลับมาของพระคริสต์ และเป็นการมาครั้งเดียวเท่านั้น (ดูแผนภาพด้านล่าง ซึ่งยังคงเป็นทฤษฎีตามความน่าจะเป็น)

ตรา แตร ขัน ไม่ได้เรียงลำดับเหตุการณ์ตามตัวอักษร นี่เป็นเพียงอีกทฤษฎีหนึ่งเท่านั้น

จะเกิดอะไรขึ้นใน 7 ปีกลียุค
และถ้าท่านใดได้มาอ่านบทความนี้ และได้ไตร่ตรองดู ควรรู้ไว้ว่า ใครก็ตามที่เชื่อในพระเจ้า และได้รักษาความเชื่อของตนในช่วง 7 ปีกลียุค จะได้บำเน็จคือ การครอบครองร่วมกับพระคริสต์เป็นเวลาพันปี ดูใน วิวรณ์ บทที่ 20 และมีบางคนไม่ได้อยู่ในยุคพันปีด้วย ต้องรอให้ยุคพันปีผ่านไปก่อนถึงจะได้ฟื้นขึ้นมาสู่การพิพากษาสุดท้าย

ข้อความที่ชัดเจนเกี่ยวกับการไม่รับเครื่องหมาย 666 แม้ต้องตายก็จะคืนชีพอีกครั้ง และได้ครอบครองร่วมกับพระคริสต์

มีบางคนต้องรอหลังยุคพันปี


อยากให้ผู้สอน หรือนักเทศน์ หรือคนที่สนใจศึกษาวิวรณ์เชิงลึก ช่วยกันสอนเรื่อง ยุคพันปี กันให้มาก เพราะนี่คือรางวัลที่แท้จริงของผู้เชื่อ

อย่ากลัวเลย! ที่จะกลายเป็นคริสเตียนที่อยู่ใน 7 ปีกลียุค ท่านไม่ใช่ผู้พ่ายแพ้ แต่ท่านคือผู้ที่ได้รับโอกาสพิสูจน์ความเชื่อศรัทธาในพระคริสต์ และมีโอกาสได้อยู่ใน ยุคพันปี นั่นเอง 

ขอพระเจ้าประทานความเข้าใจแก่เราทุกคน อาเมน

หนังสือ ‪"‎วิวรณ์‬" ไม่ใช่ตำราวิทยาศาสตร์ แต่พยากรณ์ถึงอนาคตโลก


นักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซาใช้กล้องเคปเลอร์ (Kepler) ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์มีกำลังขยายสูง สำรวจพบดาวเคราะห์ในกลุ่มดาวซิกนัส (Cygnus) หรือกลุ่มดาวหงส์ซึ่งมีลักษณะคล้ายโลกมากที่สุดและตั้งชื่อว่า "เคปเลอร์ 452b" (Kepler-452b) นาซายังระบุอีกว่าดาวเคราะห์ที่เปรียบเสมือนกับดาวลูกพี่ลูกน้องหรือคู่แฝดของโลกนี้อยู่ในโซนของกลุ่มดาวที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต

ดาวเคราะห์เคปเลอร์ 452b มีขนาดใหญ่กว่าโลกถึงร้อยละ 60 นอกจากนี้่ยังมีอายุมากกว่าโลก อยู่ห่างจากโลกประมาณ 1,400 ปีแสง โดยโคจรอยู่รอบดาวที่มีลักษณะคล้ายกับดวงอาทิตย์และมีระยะการโคจรเท่าๆ กับโลก รวมทั้งมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น มีทะเล แสงแดดเหมือนกับโลกและอาจมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่


ก่อนหน้านี้นาซาเคยประกาศการค้นพบดาวเคราะห์คล้ายโลกมาแล้วหลายครั้ง แต่ดาวเคราะห์ที่พบส่วนใหญ่ยังขาดคุณสมบัติบางอย่างที่ใกล้เคียงกับโลก เช่น บางดวงมีสภาพอากาศที่ร้อนจัดเกินกว่าที่สิ่งมีชีวิตจะดำรงชีวิตอยู่ได้ ต่างจากดาวเคราะห์เคปเลอร์ 452b ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ของนาซาระบุว่าเป็นดาวคู่แฝดของโลกจึงตั้งชื่อเล่นให้ว่า "Earth 2.0"






ข้อมูลจาก http://news.thaipbs.or.th/content/นาซาพบดาวเคราะห์-คู่แฝด-ของโลก