ค้นหาข้อมูลจากบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เส้นทางสู่กางเขน Via Dolorosa

          เส้นทางสู่กางเขนของพระเยซูคริสต์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกสรรสร้างขึ้นเพื่อการแสวงบุญของชาวคาทอลิก แม้แต่อุโมงค์ฝังพระศพ แต่เมื่อเวลาผ่านไปการค้นหาความจริงมากขึ้น สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นตำนานความเชื่อที่ผู้คนยังคงหลั่งไหลไปเยี่ยมเยียน

เยรีโค เมืองประวัติศาสตร์พระคัมภีร์



           ในพระคัมภีร์เดิม พระธรรมโยชูวาบทที่ 6 ได้กล่าวถึงเรื่องราวของชนชาติอิสราเอลที่ได้พิชิตกำแพงเมืองเยรีโค เมื่อพวกเขาได้เข้าสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญา หลังจากการเดินวนเวียนอยู่ในถิ่นทุรกันดาร 40 ปี พระคัมภีร์กล่าวว่า หลังจากที่อิสราเอลเดินรอบเมืองเยรีโควันละรอบใน 6 วันแรก และเดิน 7 รอบในวันที่ 7 ปุโรหิตได้เป่าเขาแกะ ประชาชนโห่ร้อง และกำแพงเมืองเยรีโคก็พังราบลง

           จากการขุดพบ เมืองเยรีโค เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยกำแพง 2 ชั้น ตัวเมืองตั้งอยู่บนเนินดิน ซึ่งมีกำแพงหินกั้นอยู่ที่ส่วนฐานของกำแพงชั้นนอก กำแพงหินนี้มีความสูง 4-5 เมตร ที่ส่วนบนของกำแพงหินถูกต่อเติมด้วยกำแพงอิฐที่มีความหนา 2 เมตร สูง 6 – 8 เมตร ส่วนกำแพงชั้นในตั้งอยู่บนเนินดินที่มีความสูง 14 เมตรจากระดับพื้นปกติ ซึ่งสูงมากสำหรับชนชาติอิสราเอลที่จะปีนขึ้นไปเพื่อทำสงคราม

           ประชาชนของเมืองเยรีโคได้เตรียมการสำหรับการถูกล้อม ขณะที่เมืองถูกโจมตีนั้นเป็นช่วงของฤดูเกี่ยวข้าว ในเมืองจึงเต็มไปด้วยอาหารที่พร้อมสำหรับการถูกล้อมได้หลายปี มีการขุดพบไหบรรจุเมล็ดพืชมากมายในเมืองเยรีโค เมล็ดพืชเป็นสิ่งที่มีค่ามากในยุคนั้น เพราะไม่เพียงแต่เป็นอาหารเท่านั้น แต่ยังใช้เป็นสินค้าแลกเปลี่ยนได้อีกด้วย โดยปกติหากมีการตีเมือง เมล็ดพืชจะถูกชิงไปโดยผู้ชนะ แต่ที่เมืองเยรีโคกลับมีเหลืออยู่มากมาย เพราะพระเจ้าสั่งอิสราเอลไม่ให้นำสิ่งใดไปด้วย นอกจากเงิน ทอง และเครื่องใช้ที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์และเหล็ก 

          หลังจากที่อิสราเอลเดินครบ 7 รอบ พระคัมภีร์กล่าวว่า กำแพงเมืองก็พังราบลง จากการขุดค้นพบว่าส่วนของกำแพงที่เป็นอิฐพังราบลงมาด้านนอกของกำแพงหินกลายเป็นทางขึ้นให้กับอิสราเอลที่จะเข้าไปในเมือง กำแพงอิฐทุกด้านของเมืองเยรีโคพังราบลงหมด ยกเว้นส่วนหนึ่งของกำแพงด้านเหนือซึ่งจากการขุดค้นพบว่ามีบ้านที่ติดอยู่กับกำแพงส่วนนั้น ซึ่งตรงกับข้อมูลในพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงราหับ หญิงโสเภณีที่ช่วยเหลือผู้สอดแนมของอิสราเอลโดยซ่อนไว้ในบ้านของนางที่ติดอยู่กับกำแพงเพื่อช่วยให้พ้นจากคนที่ตามล่า ผู้สอดแนมบอกกับนางราหับว่าให้นางกับครัวเรือนของนางหลบเข้าไปในบ้านติดด้ายสีแดงไว้เพื่อความปลอดภัยขณะที่อิสราเอลโจมตีเมืองเยรีโค   เนื่องจากบ้านอยู่ติดกับกำแพง จึงเป็นการง่ายสำหรับผู้สอดแนมที่จะหลบหนีออกจากเมือง นอกจากนั้นห่างจากจุดที่กำแพงด้านเหนือไม่มากนักก็มีเนินเขาของถิ่นทุรกันดารยูเดีย ซึ่งง่ายต่อผู้สอดแนมที่จะหลบซ่อนได้เป็นเวลาสามวัน

          พระคัมภีร์ยังได้กล่าวอีกว่า อิสราเอลได้เผาทุกอย่างที่อยู่ในเมืองเยรีโค นักโบราณคดีพบว่ากำแพงและพื้นมีสีดำและแดงซึ่งเป็นร่องรอยของการถูกเผาด้วยไฟ และทุกพื้นที่เต็มไปด้วยซากของอิฐที่พังทลายและเครื่องใช้ในครัวเรือน มีการเผาไหม้อย่างรุนแรงและกำแพงเมืองพังทลายลงก่อนมีการเผาไหม้ และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่การขุดพบทางโบราณคดีสนับสนุนความจริงแท้ของพระคริสตธรรมคัมภีร์