เป็นการศึกษาเชิงลึกโดยผ่านมุมมองความเชื่อของชาวยิว และผสานกับข้อมูลที่ว่า พระเยซูเป็นผลแรกของการเป็นขึ้นมาจากความตาย
(1คร. 15:20) แต่ความจริงพระคริสต์ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และทรงเป็นผลแรกในพวกคนทั้งหลายที่ได้ล่วงหลับไปแล้วนั้น
และการปรากฏตัวของโมเสสพร้อมกับเอลียาห์ ในมัทธิว บทที่ 17 ข้อ 1-3
ซาอูลและคนทรงที่เมืองเอนโดร์
1 ซามูเอล บทที่ 28 ข้อ 3 ฝ่ายซามูเอลได้สิ้นชีพแล้ว และคนอิสราเอลทั้งปวงก็ไว้ทุกข์ให้ท่านและฝังศพท่านไว้ในเมืองรามาห์ ซึ่งเป็นเมืองของท่านเอง และซาอูลทรงกำจัดคนทรงและพ่อมดแม่มดเสียจากแผ่นดิน
4 คนฟีลิสเตียก็ชุมนุมกันและมาตั้งค่ายอยู่ที่ชูเนม และซาอูลทรงรวบรวมอิสราเอลทั้งสิ้น และเขาทั้งหลายตั้งค่ายอยู่ที่กิลโบอา
5 เมื่อซาอูลทอดพระเนตรกองทัพของคนฟีลิสเตียก็กลัว และพระทัยของพระองค์ก็หวั่นไหวมาก
6 และเมื่อซาอูลทูลถามพระเจ้า พระเจ้ามิได้ทรงตอบพระองค์ ไม่ว่าด้วยความฝัน หรือด้วยอูริม หรือด้วยผู้เผยพระวจนะ
7 ซาอูลจึงรับสั่งกับมหาดเล็กของพระองค์ว่า “จงออกไปหาหญิงที่เป็นคนทรงเพื่อเราจะได้ไปหาและถามเขาดู” และมหาดเล็กก็กราบทูลว่า “ดูเถิด มีหญิงคนทรงคนหนึ่งอยู่ที่บ้านเอนโดร์”
8 ซาอูลจึงปลอมพระองค์และทรงฉลองพระองค์อย่างอื่นเสด็จออกไป พร้อมกับชายสองคน ไปหาหญิงคนทรงในเวลากลางคืน พระองค์ตรัสว่า “ขอทำนายให้ฉันโดยวิญญาณของคนตาย ฉันจะออกชื่อผู้ใดก็ให้เรียกผู้นั้นขึ้นมา”
9 หญิงคนนั้นจึงทูลตอบพระองค์ว่า “ท่านคงทราบแน่แล้วว่าซาอูลทรงกระทำอะไร ที่ได้กำจัดคนทรงและพ่อมดแม่มดเสียจากแผ่นดิน ทำไมท่านจึงมาวางกับดักชีวิตของข้าพเจ้าเล่า”
10 แต่ซาอูลทรงปฏิญาณกับหญิงนั้นในพระนามของพระเจ้าว่า “พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด เจ้าจะไม่ถูกโทษเพราะเรื่องนี้แน่ฉันนั้น”
11 หญิงนั้นจึงทูลถามว่า “ท่านจะให้ข้าพเจ้าเรียกใครขึ้นมา” ซาอูลตรัสว่า “เรียกซามูเอลขึ้นมาให้ฉัน”
12 และเมื่อหญิงคนนั้นเห็นซามูเอล จึงร้องเสียงดังและหญิงนั้นกราบทูลซาอูลว่า “ไฉนพระองค์จึงทรงล่อลวงหม่อมฉัน พระองค์คือซาอูล”
13 พระราชาตรัสแก่นางว่า “อย่ากลัวเลย เจ้าได้เห็นอะไร” และหญิงนั้นกราบทูลซาอูลว่า “หม่อมฉันเห็นเทพยเจ้าองค์หนึ่งเสด็จขึ้นมาจากแผ่นดิน”
14 พระองค์ถามนางว่า “รูปร่างของเขาเป็นอย่างไร” และนางตอบว่า “เป็นผู้ชายแก่ขึ้นมามีเสื้อคลุมกายอยู่” ซาอูลก็ทรงทราบว่าเป็นซามูเอล พระองค์ทรงโน้มพระกายลงถึงดินกราบไหว้
15 แล้วซามูเอลพูดกับซาอูลว่า “ท่านรบกวนเราด้วยเรียกเราขึ้นมาทำไม” ซาอูลทรงตอบว่า “ข้าพเจ้ามีความทุกข์หนัก เพราะคนฟีลิสเตียกำลังมาทำสงครามกับข้าพเจ้า และพระเจ้าทรงหันจากข้าพเจ้าเสียแล้ว มิได้ทรงตอบข้าพเจ้าอีกเลย ไม่ว่าโดยผู้เผยพระวจนะหรือโดยความฝัน เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขอเรียกท่านขึ้นมาเพื่อท่านจะได้แจ้งว่า ข้าพเจ้าจะกระทำประการใดดี”
16 และซามูเอลตอบว่า “ในเมื่อพระเจ้าทรงหันจากท่านเสียแล้ว และเป็นศัตรูของท่าน ท่านจะมาถามข้าพเจ้าทำไมเล่า
17 พระเจ้าได้ทรงกระทำแก่ท่านอย่างที่พระองค์ตรัสบอกทางข้าพเจ้าแล้วนั้น เพราะพระเจ้าทรงฉีกราชอาณาจักรนั้นออกเสียจากมือของท่านและทรงมอบให้แก่คนอื่น คือดาวิด
18 เพราะท่านมิได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า มิได้กระทำตามพระพิโรธของพระองค์ที่ทรงมีต่ออามาเลข ฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงกระทำสิ่งนี้แก่ท่านในวันนี้
19 ยิ่งกว่านั้นอีกพระเจ้าจะทรงมอบอิสราเอลพร้อมกับตัวท่านไว้ในมือของคนฟีลิสเตีย พรุ่งนี้ตัวท่านพร้อมกับบุตรชายทั้งหลายของท่านจะอยู่กับเรา และพระเจ้าจะทรงมอบกองทัพอิสราเอลไว้ในมือของคนฟีลิสเตียด้วย”
20 แล้วซาอูลก็ทรงล้มลงเหยียดยาวบนพื้นดินในทันที กลัวยิ่งนักเพราะถ้อยคำของซามูเอล และไม่มีกำลังเหลืออยู่ในพระองค์ เพราะไม่ได้เสวยมาตลอดวันหนึ่งกับคืนหนึ่งแล้ว
21 หญิงนั้นก็เข้ามาหาซาอูล และเมื่อนางเห็นว่าพระองค์ตกพระทัยมาก จึงทูลว่า “ดูเถิด ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทก็ย่อมฟังรับสั่งของฝ่าพระบาทยอมเสี่ยงชีวิต และยอมฟังพระดำรัสที่พระองค์ตรัสสั่งทุกประการ
22 เพราะฉะนั้นขอฝ่าพระบาทจงฟังเสียงผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทบ้าง ขอหม่อมฉันได้ถวายพระกระยาหารแก่พระองค์สักหน่อยหนึ่ง ขอพระองค์เสวย เพื่อพระองค์จะทรงมีพระกำลังเมื่อกลับตามทางของพระองค์”
23 พระองค์ก็ทรงปฏิเสธ รับสั่งว่า “ไม่กิน” แต่มหาดเล็กกับหญิงนั้นอ้อนวอนพระองค์ พระองค์ก็ทรงฟังเสียงของเขา พระองค์ทรงลุกขึ้นประทับบนเตียง
24 หญิงนั้นมีลูกโคอ้วนอยู่ในบ้านตัวหนึ่ง ก็รีบฆ่าเสีย เอาแป้งมานวดปิ้งทำขนมปังไร้เชื้อ
25 นางก็นำมาถวายแก่ซาอูลและทรงเสวย กับให้มหาดเล็กเขารับประทาน แล้วก็ทรงลุกขึ้นเสด็จกลับไปในคืนนั้น
ใน เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 34 ข้อ 1-12 บันทึกเรื่องการสิ้นชีวิตของโมเสส
แต่ในหนังสืิอ Tree of Souls ซึ่งเป้นหนังสือเกี่ยวกับตำนานความเชื่อของชาวยิวได้บันทึกว่า โมเสสไม่เคยตาย
จะอย่างไรก็แล้วแต่ การศึกษาเพื่อค้นหาความจริงด้วยหลักฐาน เหตุผล หลักข้อเชื่อ หรือทัศนคติของแต่ละที่ ช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูล หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในเชิงวิชาการ
ยังมีประเด็นจาก หนังสือ ยูดา อีก (ยด. 1:9) ฝ่ายอัครเทวทูตาธิบดีมีคาเอล ครั้งเมื่อท่านโต้เถียงกับมาร*เรื่องศพของโมเสส ท่านเองก็ยังไม่บังอาจกล่าวก้าวร้าวต่อมารเลย เป็นแต่เพียงกล่าวว่า “ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงขนาบเจ้าเถิด”
*ท่านโต้เถียงกับมาร เรื่องนี้ไม่มีบันทึกไว้ในพระคัมภีร์แต่พบในหนังสือโบราณของชาวยิวชื่อ “การขึ้นสู่สวรรค์ของโมเสส” ซึ่งเขียนในศตวรรษที่ 1
หากใครเอาไปตีความเป็นอย่างอื่น หรือเพื่อเอาไปโจมตีเพียงข้อความไม่กี่บรรทัด ก็แล้วแต่ความเชื่อของท่านนะครับ ขอพระเจ้าอวยพระพร
(1คร. 15:20) แต่ความจริงพระคริสต์ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และทรงเป็นผลแรกในพวกคนทั้งหลายที่ได้ล่วงหลับไปแล้วนั้น
และการปรากฏตัวของโมเสสพร้อมกับเอลียาห์ ในมัทธิว บทที่ 17 ข้อ 1-3
หากโมเสสที่มาปรากฏตัวตายไปแล้ว นั่นก็แสดงว่า เขาเป็นวิญญาณ แบบเดียวกับที่กษัตริย์ซาอูลเรียกซามูเอลมาพบ
ซาอูลและคนทรงที่เมืองเอนโดร์
1 ซามูเอล บทที่ 28 ข้อ 3 ฝ่ายซามูเอลได้สิ้นชีพแล้ว และคนอิสราเอลทั้งปวงก็ไว้ทุกข์ให้ท่านและฝังศพท่านไว้ในเมืองรามาห์ ซึ่งเป็นเมืองของท่านเอง และซาอูลทรงกำจัดคนทรงและพ่อมดแม่มดเสียจากแผ่นดิน
4 คนฟีลิสเตียก็ชุมนุมกันและมาตั้งค่ายอยู่ที่ชูเนม และซาอูลทรงรวบรวมอิสราเอลทั้งสิ้น และเขาทั้งหลายตั้งค่ายอยู่ที่กิลโบอา
5 เมื่อซาอูลทอดพระเนตรกองทัพของคนฟีลิสเตียก็กลัว และพระทัยของพระองค์ก็หวั่นไหวมาก
6 และเมื่อซาอูลทูลถามพระเจ้า พระเจ้ามิได้ทรงตอบพระองค์ ไม่ว่าด้วยความฝัน หรือด้วยอูริม หรือด้วยผู้เผยพระวจนะ
7 ซาอูลจึงรับสั่งกับมหาดเล็กของพระองค์ว่า “จงออกไปหาหญิงที่เป็นคนทรงเพื่อเราจะได้ไปหาและถามเขาดู” และมหาดเล็กก็กราบทูลว่า “ดูเถิด มีหญิงคนทรงคนหนึ่งอยู่ที่บ้านเอนโดร์”
8 ซาอูลจึงปลอมพระองค์และทรงฉลองพระองค์อย่างอื่นเสด็จออกไป พร้อมกับชายสองคน ไปหาหญิงคนทรงในเวลากลางคืน พระองค์ตรัสว่า “ขอทำนายให้ฉันโดยวิญญาณของคนตาย ฉันจะออกชื่อผู้ใดก็ให้เรียกผู้นั้นขึ้นมา”
9 หญิงคนนั้นจึงทูลตอบพระองค์ว่า “ท่านคงทราบแน่แล้วว่าซาอูลทรงกระทำอะไร ที่ได้กำจัดคนทรงและพ่อมดแม่มดเสียจากแผ่นดิน ทำไมท่านจึงมาวางกับดักชีวิตของข้าพเจ้าเล่า”
10 แต่ซาอูลทรงปฏิญาณกับหญิงนั้นในพระนามของพระเจ้าว่า “พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด เจ้าจะไม่ถูกโทษเพราะเรื่องนี้แน่ฉันนั้น”
11 หญิงนั้นจึงทูลถามว่า “ท่านจะให้ข้าพเจ้าเรียกใครขึ้นมา” ซาอูลตรัสว่า “เรียกซามูเอลขึ้นมาให้ฉัน”
12 และเมื่อหญิงคนนั้นเห็นซามูเอล จึงร้องเสียงดังและหญิงนั้นกราบทูลซาอูลว่า “ไฉนพระองค์จึงทรงล่อลวงหม่อมฉัน พระองค์คือซาอูล”
13 พระราชาตรัสแก่นางว่า “อย่ากลัวเลย เจ้าได้เห็นอะไร” และหญิงนั้นกราบทูลซาอูลว่า “หม่อมฉันเห็นเทพยเจ้าองค์หนึ่งเสด็จขึ้นมาจากแผ่นดิน”
14 พระองค์ถามนางว่า “รูปร่างของเขาเป็นอย่างไร” และนางตอบว่า “เป็นผู้ชายแก่ขึ้นมามีเสื้อคลุมกายอยู่” ซาอูลก็ทรงทราบว่าเป็นซามูเอล พระองค์ทรงโน้มพระกายลงถึงดินกราบไหว้
15 แล้วซามูเอลพูดกับซาอูลว่า “ท่านรบกวนเราด้วยเรียกเราขึ้นมาทำไม” ซาอูลทรงตอบว่า “ข้าพเจ้ามีความทุกข์หนัก เพราะคนฟีลิสเตียกำลังมาทำสงครามกับข้าพเจ้า และพระเจ้าทรงหันจากข้าพเจ้าเสียแล้ว มิได้ทรงตอบข้าพเจ้าอีกเลย ไม่ว่าโดยผู้เผยพระวจนะหรือโดยความฝัน เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขอเรียกท่านขึ้นมาเพื่อท่านจะได้แจ้งว่า ข้าพเจ้าจะกระทำประการใดดี”
16 และซามูเอลตอบว่า “ในเมื่อพระเจ้าทรงหันจากท่านเสียแล้ว และเป็นศัตรูของท่าน ท่านจะมาถามข้าพเจ้าทำไมเล่า
17 พระเจ้าได้ทรงกระทำแก่ท่านอย่างที่พระองค์ตรัสบอกทางข้าพเจ้าแล้วนั้น เพราะพระเจ้าทรงฉีกราชอาณาจักรนั้นออกเสียจากมือของท่านและทรงมอบให้แก่คนอื่น คือดาวิด
18 เพราะท่านมิได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า มิได้กระทำตามพระพิโรธของพระองค์ที่ทรงมีต่ออามาเลข ฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงกระทำสิ่งนี้แก่ท่านในวันนี้
19 ยิ่งกว่านั้นอีกพระเจ้าจะทรงมอบอิสราเอลพร้อมกับตัวท่านไว้ในมือของคนฟีลิสเตีย พรุ่งนี้ตัวท่านพร้อมกับบุตรชายทั้งหลายของท่านจะอยู่กับเรา และพระเจ้าจะทรงมอบกองทัพอิสราเอลไว้ในมือของคนฟีลิสเตียด้วย”
20 แล้วซาอูลก็ทรงล้มลงเหยียดยาวบนพื้นดินในทันที กลัวยิ่งนักเพราะถ้อยคำของซามูเอล และไม่มีกำลังเหลืออยู่ในพระองค์ เพราะไม่ได้เสวยมาตลอดวันหนึ่งกับคืนหนึ่งแล้ว
21 หญิงนั้นก็เข้ามาหาซาอูล และเมื่อนางเห็นว่าพระองค์ตกพระทัยมาก จึงทูลว่า “ดูเถิด ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทก็ย่อมฟังรับสั่งของฝ่าพระบาทยอมเสี่ยงชีวิต และยอมฟังพระดำรัสที่พระองค์ตรัสสั่งทุกประการ
22 เพราะฉะนั้นขอฝ่าพระบาทจงฟังเสียงผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทบ้าง ขอหม่อมฉันได้ถวายพระกระยาหารแก่พระองค์สักหน่อยหนึ่ง ขอพระองค์เสวย เพื่อพระองค์จะทรงมีพระกำลังเมื่อกลับตามทางของพระองค์”
23 พระองค์ก็ทรงปฏิเสธ รับสั่งว่า “ไม่กิน” แต่มหาดเล็กกับหญิงนั้นอ้อนวอนพระองค์ พระองค์ก็ทรงฟังเสียงของเขา พระองค์ทรงลุกขึ้นประทับบนเตียง
24 หญิงนั้นมีลูกโคอ้วนอยู่ในบ้านตัวหนึ่ง ก็รีบฆ่าเสีย เอาแป้งมานวดปิ้งทำขนมปังไร้เชื้อ
25 นางก็นำมาถวายแก่ซาอูลและทรงเสวย กับให้มหาดเล็กเขารับประทาน แล้วก็ทรงลุกขึ้นเสด็จกลับไปในคืนนั้น
ใน เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 34 ข้อ 1-12 บันทึกเรื่องการสิ้นชีวิตของโมเสส
แต่ในหนังสืิอ Tree of Souls ซึ่งเป้นหนังสือเกี่ยวกับตำนานความเชื่อของชาวยิวได้บันทึกว่า โมเสสไม่เคยตาย
จะอย่างไรก็แล้วแต่ การศึกษาเพื่อค้นหาความจริงด้วยหลักฐาน เหตุผล หลักข้อเชื่อ หรือทัศนคติของแต่ละที่ ช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูล หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในเชิงวิชาการ
ยังมีประเด็นจาก หนังสือ ยูดา อีก (ยด. 1:9) ฝ่ายอัครเทวทูตาธิบดีมีคาเอล ครั้งเมื่อท่านโต้เถียงกับมาร*เรื่องศพของโมเสส ท่านเองก็ยังไม่บังอาจกล่าวก้าวร้าวต่อมารเลย เป็นแต่เพียงกล่าวว่า “ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงขนาบเจ้าเถิด”
*ท่านโต้เถียงกับมาร เรื่องนี้ไม่มีบันทึกไว้ในพระคัมภีร์แต่พบในหนังสือโบราณของชาวยิวชื่อ “การขึ้นสู่สวรรค์ของโมเสส” ซึ่งเขียนในศตวรรษที่ 1