และใน 1 ยน. 5:6-8 นี่แหละคือผู้ที่ได้มาโดยน้ำและพระโลหิต คือพระเยซูคริสต์ ไม่ใช่ด้วยน้ำสิ่งเดียว แต่ด้วยน้ำและพระโลหิต และพระวิญญาณทรงเป็นพยานเพราะพระวิญญาณทรงเป็นความจริง มีพยานอยู่สามประการด้วยกัน คือพระวิญญาณ น้ำ และพระโลหิต และพยานทั้งสามนี้สอดคล้องกัน
ทั้ง 2 บทนี้ กล่าวถึง "น้ำ" เหมือนกัน ขออธิบายตามบริบทว่า ในหนังสือยอห์น พระเยซูกำลังกล่าวถึงการบัพติศมาในน้ำของยอห์นผู้ให้บัพติศมาในแม่น้ำจอร์แดน แม้แต่พระเยซูเองก็เคยรับ ซึ่งต่อมาการรับ "บัพติศมาในน้ำ" จึงเป็นดังสัญลักษณ์ของการกลับใจใหม่ และสาวกของพระเยซูก็ทำเช่นเดียวกับยอห์น พระเยซูได้อธิบายเรื่องนี้แก่ "นิโคเดมัส" เรื่องการบังเกิดใหม่
ในแง่กายภาพ ตอนมนุษย์เราเกิดใหม่ก็อยู่ในท้องของมารดา ก็ยังอยู่ใน "น้ำคร่ำ" ซึ่งอาจทำให้ตีความแบบนี้ก็ได้
ส่วนการบังเกิดจากพระวิญญาณหมายถึงการเกิดฝ่ายวิญญาณ เป็นการเปลี่ยนแปลงใหม่โดยอำนาจของพระเจ้าในชีวิตของผู้เชื่อ
ใน 1 ยน. 5:6-8 “น้ำ” อาจเป็นสัญลักษณ์ของการรับบัพติศมาของพระเยซู ขณะพระเยซูทรงเริ่มพระราชกิจ “พระโลหิต” เป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู (พระราชกิจของพระองค์สำเร็จ) ส่วน “พระวิญญาณ” นั้นเป็นผู้ที่สอนให้เรารู้ถึงความจริงเรื่องพระเยซูคริสต์ สาเหตุที่ผู้เขียนเน้นเรื่อง “พระโลหิต” เพราะต้องการคัดค้านคำสอนเท็จที่ว่า “พระเยซูผู้ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขนไม่ใช่พระเจ้า”
อธิบายเพิ่มเติมเรื่อง "น้ำ"
ในยุคปฐมกาล แผ่นดินถูกสาปหลังจากอาดัมทำบาป สัตว์พลอยโดนไปด้วย มีแต่ "น้ำ" ที่ไม่โดน รวมถึงสัตว์น้ำ
พระเจ้าใช้ "น้ำ" ล้างโลกครั้งหนึ่ง เพื่อชำระบาปของมนุษย์ในสมัยโนอาห์
น้ำท่วมโลกครั้งแรก |
"เอลีชา" แนะนำให้ผู้บัญชาการกองทัพของพระราชาประเทศซีเรียนามว่า "นาอามาน" ไปล้างโรคเรื้อน ที่แม่น้ำจอร์แดนถึง 7 ครั้ง เขาก็หายสะอาดดี
นาอามานมีผิวพรรณสะอาดเหมือนเด็ก เมื่อจุ่มในแม่น้ำถึง 7 ครั้ง |
"ยอห์น" ก็ใช้วิธีนี้กับผู้คนที่ต้องการกลับใจใหม่ที่ "แม่น้ำจอร์แดน" บัพติศมา พิธีที่ใช้น้ำเป็นสัญลักษณ์เล็งถึงการที่พระเจ้าทรงให้อภัยคนบาป
แม้แต่พระเยซูเองก็ยังรับพัพติศมาในแม่น้ำจอร์แดนด้วย |