ค้นหาข้อมูลจากบล็อกนี้

วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ในทัศนความเชื่อจากพระคัมภีร์เดิมก็คือ..การนับถือพระอื่น = การเล่นชู้ (จาก ยอห์น บทที่ 4)

ในบันทึกจากพระคัมภีร์เดิมมักเปรียบเปรยถึง การเล่นชู้ = การไปนมัสการพระอื่น ที่ไม่ใช่พระเจ้าของชาวอิสราเอล

ในบทสนทนา (ยอห์น บทที่ 4) ของพระเยซูกับหญิงชาวสะมาเรียที่บ่อน้ำ ก็สะท้อนเรื่องราวเหล่านั้นเช่นกัน



ในปัจจุบัน..บ่อน้ำที่ว่า..ก็ยังมีอยู่ในอิสราเอล


พระเยซูมาขอน้ำหญิงคนนั้นดื่ม และบทสนทนาที่ตรงๆ และซับซ้อนซ่อนรหัสก็เริ่มขึ้น เหมือนคุยกันคนละเรื่อง...

7...พระ​เยซู​ตรัส​กับ​นาง​ว่า “ขอ​น้ำ​ให้​เรา​ดื่ม​บ้าง” 

8 ขณะ​นั้น​สา​วก​ของ​พระ​องค์​เข้า​ไป​ซื้อ​อาหาร​ใน​เมือง

9 หญิง​ชาว​สะ​มา​เรีย​ทูล​พระ​องค์​ว่า “ทำ​ไม​ท่าน​ซึ่ง​เป็น​คน​ยิว​จึง​มา​ขอ​น้ำ​ดื่ม​จาก​ดิ​ฉัน​ซึ่ง​เป็น​หญิง​ชาว​สะ​มา​เรีย?”  (เพราะ​พวก​ยิว​ไม่​คบ​หา​พวก​สะ​มา​เรีย​เลย)

10 พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​นาง​ว่า “ถ้า​เธอ​รู้​จัก​ของ​ที่​พระ​เจ้า​ประ​ทาน และ​รู้​จัก​ผู้​ที่​พูด​กับ​เธอ​ว่า ‘ขอ​น้ำ​ให้​เรา​ดื่ม​บ้าง’ ก็​คง​จะ​ขอ​จาก​ท่าน​ผู้​นั้น และ​ผู้​นั้น​ก็​คง​จะ​ให้​น้ำ​ดำ​รง​ชีวิต​แก่​เธอ”

11 นาง​ทูล​พระ​องค์​ว่า “ท่าน​เจ้า​คะ ท่าน​ไม่​มี​ถัง​ตัก และ​บ่อ​นี้​ก็​ลึก ท่าน​จะ​เอา​น้ำ​ดำ​รง​ชีวิต​นั้น​มา​จาก​ไหน? 12 ท่าน​ใหญ่​กว่า​ยา​โคบ​บรรพ​บุรุษ​ของ​เรา​ผู้​ให้​บ่อ​น้ำ​นี้​แก่​เรา​หรือ? ยา​โคบ​เอง​ก็​ดื่ม​จาก​บ่อ​นี้​รวม​ทั้ง​บุตร​ทั้ง​หลาย​และ​สัตว์​เลี้ยง​ของ​ท่าน​ด้วย” 

13 พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​ว่า “ทุก​คน​ที่​ดื่ม​น้ำ​นี้​จะ​กระ​หาย​อีก 14 แต่​คน​ที่​ดื่ม​น้ำ​ที่​เรา​จะ​ให้​กับ​เขา​นั้น จะ​ไม่​มี​วัน​กระ​หาย​อีก​เลย น้ำ​ที่​เรา​จะ​ให้​เขา​นั้น​จะ​กลาย​เป็น​บ่อ​น้ำพุ​ใน​ตัว​เขา​พลุ่ง​ขึ้น​ถึง​ชีวิต​นิรันดร์” 

15 นาง​ทูล​พระ​องค์​ว่า “ท่าน​เจ้า​คะ ขอ​น้ำ​นั้น​ให้​ดิ​ฉัน​เถิด เพื่อ​ดิ​ฉัน​จะ​ได้​ไม่​กระ​หาย​อีก และ​จะ​ได้​ไม่​ต้อง​มา​ตัก​ที่​นี่” 


ความลึกซึ้งซ่อนอยู่ในบทสนทนาที่ทั้งพระเยซูและหญิงคนนั้นรู้อยู่แก่ใจว่า เหตุที่อาณาจักรอิสราเอลล่มสลาย เพราะการหันไปกราบไหว้รูปเคารพหรือพระต่างด้าวของกษัตริย์อิสราเอล (สะมาเรียคือเมืองหลวงของอิสราเอล อาณาจักรเหนือ)

ตั้งแต่ออกมาจากอียิปต์ ชาวฮีบรูก็ไร้เดียงสาในเรื่องพระเจ้าเดียว หลงเข้าใจว่าคือวัวแบบเดียวกับอียิปต์

ซาโลมอนหลงเจิ่นไป เพราะมีเมียมากเกิน จนยอมให้เธอนมัสการพระของตนเอง

กษัตริย์ซาโลมอนผู้มีสติปัญญา กลับกลายเป็นผู้สร้างรูปเคารพซะเอง

ข้อความจากสุภาษิต บทที่ 7 สะท้อนพฤติกรรมของบรรดาหญิงต่างด้าว เมียของซาโลมอน กับพิธีกรรมแก้บนต่อเทพเจ้าของเธอ

แม้อาณาจักรจะถูกแบ่งเป็นเหนือกับใต้ แต่ผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าก็ทำงานในทุกที่ และกล่าวเตือนกษัตริย์

กษัตริย์ที่ไม่ดี ยังคงดำเนินการกราบไหว้รูปเคารพ ปรากฎในหนังสือพงศ์กษัตริย์ทั้ง 2 เล่ม

เป็นพระต่างด้าวในดินแดนใกล้เคียง และมาจากมเหสีของอาหับ คือพระเยเซเบลชาวไซดอน

พระบาอัล และพระอาเช-ราห์ ถือเป็นเทพเจ้าประจำในดินแดนคานาอันเลย

สรุปว่า อาณาจักรอิสราเอล นับถือพระต่างด้าวถึง 5 แห่ง = สามี 5 คนของหญิงชาวสะมาเรีย
บทสนทนาธรรมดาๆ ถ้าอ่านเองผ่านๆ รับรองว่างงแน่นอน แต่ถ้าเรารู้ประวัติศาสตร์เบื้องหลังบทสนทนา ก็จะเข้าใจความหมายได้ลึกซึ้ง เฉกเช่นเดียวกับหญิงชาวสะมาเรีย ที่สุดท้ายก็ยอมรับว่า..

พระเยซูคือพระเมสสิยาห์ นั่นเอง

อ่านประวัติศาสตร์บ้างก็ดีนะครับ!

คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​พระ​บุตร (เท่านั้นถึง) ​จะ​ไม่​ถูก​พิ​พาก​ษา ยอห์น 3:18

ผมสามารถท่องข้อพระคัมภีร์ ยอห์น บทที่ 3 ข้อ 16 ได้อย่างขึ้นใจ จะท่องกี่ครั้งก็จำได้ "เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก..." 

จนดูเหมือนว่าเป็นความหมายตรงๆ ไม่ต้องตีความอะไร พระเจ้ารักมนุษย์ จึงยอมส่งพระเยซูพระบุตรลงมาเพื่อตายไถ่บาป จบข่าว ดูเหมือน short note จะมีข้อความเพียงเท่านี้ ประมาณว่า ใครก็ได้ที่มาเชื่อก็รอด


อืม! ก็โอเคนะ ที่พระเจ้ารักเรา 

แต่..ตอนนี้ผมยังไม่ว่างนะ รอแป๊บ! 

ได้ๆ ไม่เป็นไร ว่างเมื่อไหร่ค่อยกลับมาก็แล้วกัน...

ถ้าเรื่องมันง่ายแบบนี้ก็คงดี!

แต่จริงๆ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น...

เพราะกว่าบทสนทนานี้จะเกิดขึ้น ก็เกิดจากการแอบย่องมาหาของฟาริสีคนหนึ่งระดับขุนนางชาวยิว นาม "นิโคเดมัส" ที่สงสัยในการทำหมายสำคัญของพระเยซู จึงอดไม่ได้ที่จะต้องมาถามด้วยตนเองในเวลากลางคืน เพราะกลัวว่าพวกพ้องของตนจะเห็น


บทสนทนาค่อนข้างลึกซึ้งและซับซ้อน เพราะคนหนึ่งเข้าใจแบบตรงๆ แต่อีกคนหนึ่งพูดลึกลงไปในจิตวิญญาณของมนุษย์

จนมาถึงบทสนทนาสำคัญ...(จาก ยอห์น บทที่ 3)
14 โม​เสส​ยก​งู​ขึ้น​ใน​ถิ่น​ทุร​กัน​ดาร​อย่าง​ไร 
บุตร​มนุษย์​จะ​ต้อง​ถูก​ยก​ขึ้น​อย่าง​นั้น 
15 เพื่อ​ทุก​คน​ที่​วาง​ใจ​พระ​องค์​จะ​ได้​ชีวิต​นิรันดร์” 
16 พระ​เจ้า​ทรง​รัก​โลก​ดัง​นี้ คือ​ได้​ประทาน​พระ​บุตร​องค์​เดียว​ของ​พระ​องค์ 
เพื่อ​ทุก​คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​พระ​บุตร​นั้น​จะ​ไม่​พินาศ แต่​มี​ชีวิต​นิรันดร์ 
17 เพราะ​ว่า​พระ​เจ้า​ทรง​ให้​พระ​บุตร​เข้า​มา​ใน​โลก 
ไม่​ใช่​เพื่อ​พิ​พาก​ษา​โลก แต่​เพื่อ​ช่วย​กู้​โลก​ให้​รอด​โดย​พระ​บุตร​นั้น 
18 คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​พระ​บุตร​จะ​ไม่​ถูก​พิ​พาก​ษา 
ส่วน​คน​ที่​ไม่​ได้​วาง​ใจ​ก็​ถูก​พิ​พาก​ษา​อยู่​แล้ว 
เพราะ​เขา​ไม่​ได้​วาง​ใจ​ใน​พระ​นาม​พระ​บุตร​องค์​เดียว​ของ​พระ​เจ้า

พระเยซูยกตัวอย่างเรื่องงูในถิ่นทุรกันดาร ในสมัยโมเสส เพราะชาวฮีบรูบ่นต่อว่าพระเจ้า เลยเจอพิษเข้าไป คนที่ต้องการรอดก็ต้องมาจ้องมองดูงูบนไม้เท้าที่โมเสสได้ทำไว้


เช่นเดียวกัน คนที่ต้องการจะไม่ถูกพิพากษาจากความบาปของบรรพบุรุษ หรือความผิดพลาดที่ตนเองได้กระทำ ณ ปัจจุบัน ก็เพียงมาหาพระเยซู ขอเน้นว่า ต้องเข้ามาหาเท่านั้น!

ถ้าพระคัมภีร์มีแค่ ยอห์น บทที่ 3 ข้อ 16 ก็ดูเหมือนว่า พระเจ้าโอ๋คุณนะ เหมือนเป็นแค่ประโยคบอกเล่าไม่ได้ซีเรียสอะไร เล่าให้ฟังเฉยๆ...

แต่จริงๆ แล้ว ไม่ใช่ เพราะเนื้อหาของบทสนทนามีความหมายว่า คนที่ต้องการรอดเท่านั้น ถึงจะได้รับ

ความรักของพระเจ้าคือข้อเสนอ และต้องมีการตอบรับด้วย...รัก ต้องตอบด้วยรัก

อย่ารอจนวินาทีสุดท้ายนะครับ ถึงจะมารับการรักษาจากพิษร้ายของโลกนี้!