ค้นหาข้อมูลจากบล็อกนี้
วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2562
วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2562
วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562
พระเยซูเป็นครูที่ดีเพราะทำให้ดู
ครั้งหนึ่ง พวกสาวกถกเถียงกันว่าใครจะเป็นใหญ่ (มก.9:34) พระเยซูจึงนำเด็กมาให้พวกเขาดู และกล่าวว่า “ถ้าใครต้องการจะเป็นคนแรก ก็ให้คนนั้นเป็นคนสุดท้าย และเป็นคนปรนนิบัติคนทั้งหลาย”
แต่สาวกก็ยังไม่เข้าใจ ยิ่งหนักกว่าเดิม (มก.10:35) ยอห์นกับยากอบขอเป็นใหญ่รองจากพระเยซู
พระเยซูจึงตรัสกับเขาทั้งสองว่า “พวกท่านไม่เข้าใจ สิ่งที่พวกท่านขอ ถ้วยที่เราดื่มนั้นพวกท่านดื่มได้หรือ? และบัพติศมาที่เรารับ พวกท่านจะรับได้หรือ?” (มก. 10:38)
ถ้าใครต้องการจะเป็นนาย คนนั้นจะต้องเป็นทาสของคนทั้งหลาย (มก.10:44)
สุดท้ายพระเยซูต้องทำอะไรบางอย่างให้พวกเขาเข้าใจจริงๆ
(ยน. 13:12-14) เมื่อพระองค์ทรงล้างเท้าของพวกเขาแล้ว พระองค์ก็ทรงฉลองพระองค์แล้วประทับลงตรัสกับเขาว่า “พวกท่านเข้าใจสิ่งที่เราทำกับท่านหรือไม่? พวกท่านเรียกเราว่าพระอาจารย์และองค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านเรียกถูกแล้ว เพราะเราเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นถ้าเราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระอาจารย์ยังล้างเท้าของพวกท่าน ท่านก็ควรจะล้างเท้าของกันและกันด้วย"
บ่อยครั้ง ที่คนอยากเป็นครู อยากสอนผู้อื่น แต่มักจะเพียงแค่สั่ง แค่สอน ไม่ได้ดูว่าลูกศิษย์เข้าใจในสิ่งที่ตนสอนหรือไม่ แต่พระเยซูท่านสอน ท่านสั่ง และสุดท้ายกระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เพราะศิษย์ไม่เข้าใจ
คำสอนที่เป็นนามธรรมอาจเข้าใจยากสำหรับบางคน แต่คำสอนที่เป็นรูปธรรม หรือทำให้ดู จะจดจำง่ายกว่า
ขอยกย่องครูทุกท่าน ผู้สนใจในศิษย์ของตน กระทั่งเป็นต้นแบบที่ดี
Natthanan Sonprint เขียน
16.1.19
พระเยซูก็เคยเป็นเด็กที่พ่อแม่คิดว่าหลงทาง
งานเทศกาลมีคนเยอะ เมื่อลูกหาย พ่อแม่ก็เป็นห่วง ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา
แต่เด็กบางคนก็เก่งกล้าสามารถ จนบางครั้งก็ล้ำกว่าผู้ใหญ่มาก เพราะ...
ข้อ 41. ฝ่ายบิดามารดาเคยขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ในเทศกาลปัสกาทุกปีๆ
42. เมื่อพระกุมารมีพระชนม์สิบสองพรรษา เขาทั้งหลายก็ขึ้นไปตามธรรมเนียมในเทศกาลนั้น
43. เมื่อครบกำหนดวันเลี้ยงกันแล้ว ขณะเขากำลังกลับไป พระกุมารเยซูยังค้างอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม ฝ่ายบิดากับมารดาก็ไม่รู้
44. แต่เพราะเขาทั้งสองคิดว่า พระกุมารนั้นอยู่ในหมู่คนที่มาด้วยกัน เขาจึงเดินทางไปได้วันหนึ่ง แล้วเริ่มหาพระกุมารในหมู่ญาติพี่น้องและพวกคนที่รู้จักกัน
45. เมื่อไม่พบจึงกลับไปเที่ยวหาที่กรุงเยรูซาเล็ม
46. ครั้นหามาได้สามวันแล้ว จึงพบพระกุมาร นั่งอยู่ในพระวิหารท่ามกลางพวกอาจารย์ ฟังและไต่ถามพวกอาจารย์เหล่านั้นอยู่
47. คนทั้งปวงที่ได้ยินก็ประหลาดใจในสติปัญญาและคำตอบของพระกุมารนั้น
48. ฝ่ายบิดามารดาเมื่อเห็นแล้วก็ประหลาดใจ มารดาจึงว่า “ลูกเอ๋ย ทำไมจึงทำแก่เราอย่างนี้ ดูเถิด พ่อกับแม่แสวงหาเป็นทุกข์นัก”
49. พระเยซูจึงตอบว่า “ท่านเที่ยวหาฉันทำไม ท่านไม่ทราบหรือว่า ฉันต้องอยู่ในพระนิเวศแห่งพระบิดาของฉัน”
50. ฝ่ายบิดามารดาก็ไม่เข้าใจคำซึ่งท่านกล่าวแก่เขา
51. แล้วพระกุมารก็ลงไปกับเขา ไปยังเมืองนาซาเร็ธ อยู่ใต้การปกครองของเขา มารดาก็เก็บเรื่องราวทั้งหมดนั้นไว้ในใจ
52. พระเยซูก็ได้จำเริญขึ้นในด้านสติปัญญา ในด้านร่างกาย และเป็นที่ชอบจำเพาะพระเจ้า และต่อหน้าคนทั้งปวงด้วย
Natthanan Sonprint เขียน
12.1.19
แต่เด็กบางคนก็เก่งกล้าสามารถ จนบางครั้งก็ล้ำกว่าผู้ใหญ่มาก เพราะ...
- กล้าคิด
- กล้าพูด
- กล้าแสดงความคิดเห็น
- กล้า... ฯลฯ
- หยุดคิด
- หยุดพูด
- หยุดแสดงอาการ...
- ให้คิด
- ให้พูด
- ให้แสดงความคิดเห็น
ข้อ 41. ฝ่ายบิดามารดาเคยขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ในเทศกาลปัสกาทุกปีๆ
42. เมื่อพระกุมารมีพระชนม์สิบสองพรรษา เขาทั้งหลายก็ขึ้นไปตามธรรมเนียมในเทศกาลนั้น
43. เมื่อครบกำหนดวันเลี้ยงกันแล้ว ขณะเขากำลังกลับไป พระกุมารเยซูยังค้างอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม ฝ่ายบิดากับมารดาก็ไม่รู้
44. แต่เพราะเขาทั้งสองคิดว่า พระกุมารนั้นอยู่ในหมู่คนที่มาด้วยกัน เขาจึงเดินทางไปได้วันหนึ่ง แล้วเริ่มหาพระกุมารในหมู่ญาติพี่น้องและพวกคนที่รู้จักกัน
45. เมื่อไม่พบจึงกลับไปเที่ยวหาที่กรุงเยรูซาเล็ม
46. ครั้นหามาได้สามวันแล้ว จึงพบพระกุมาร นั่งอยู่ในพระวิหารท่ามกลางพวกอาจารย์ ฟังและไต่ถามพวกอาจารย์เหล่านั้นอยู่
47. คนทั้งปวงที่ได้ยินก็ประหลาดใจในสติปัญญาและคำตอบของพระกุมารนั้น
48. ฝ่ายบิดามารดาเมื่อเห็นแล้วก็ประหลาดใจ มารดาจึงว่า “ลูกเอ๋ย ทำไมจึงทำแก่เราอย่างนี้ ดูเถิด พ่อกับแม่แสวงหาเป็นทุกข์นัก”
49. พระเยซูจึงตอบว่า “ท่านเที่ยวหาฉันทำไม ท่านไม่ทราบหรือว่า ฉันต้องอยู่ในพระนิเวศแห่งพระบิดาของฉัน”
50. ฝ่ายบิดามารดาก็ไม่เข้าใจคำซึ่งท่านกล่าวแก่เขา
51. แล้วพระกุมารก็ลงไปกับเขา ไปยังเมืองนาซาเร็ธ อยู่ใต้การปกครองของเขา มารดาก็เก็บเรื่องราวทั้งหมดนั้นไว้ในใจ
52. พระเยซูก็ได้จำเริญขึ้นในด้านสติปัญญา ในด้านร่างกาย และเป็นที่ชอบจำเพาะพระเจ้า และต่อหน้าคนทั้งปวงด้วย
Natthanan Sonprint เขียน
12.1.19
วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2562
รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเองไม่ใช่คำสอนใหม่ (13 มค.19)
เนื้อหามาจากหนังสือ เลวีนิติ บทที่ 19 ซึ่งมีอายุประมาณ 3,500 ปี คำสอนนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีมานานมาก
ลนต. 19
1. พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า
2. “จงกล่าวแก่ชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมดว่า เจ้าทั้งหลายต้องบริสุทธิ์ เพราะเรายาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์
3. พวกเจ้าทุกคนต้องเคารพมารดาและบิดาของตน และต้องรักษาบรรดาสะบาโตของเรา เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
4. อย่าหันไปนับถือรูปเคารพ และห้ามหล่อรูปเคารพไว้สำหรับตน เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
5. “เมื่อพวกเจ้าถวายศานติบูชาแด่พระยาห์เวห์ จงถวายเพื่อให้เจ้าเป็นที่โปรดปราน
6. จงรับประทานเครื่องบูชานั้นเสียในวันที่พวกเจ้าถวายบูชา หรือในวันรุ่งขึ้น ถ้ามีส่วนใดเหลืออยู่จนวันที่สาม จงเผาไฟเสีย
7. ถ้าเอาเครื่องบูชานั้นมารับประทานในวันที่สามก็เป็นที่พึงรังเกียจและจะไม่ได้รับการโปรดปราน
8. และคนที่รับประทานเครื่องบูชานั้นต้องรับโทษของตน เพราะเขาได้ทำให้ของถวายที่บริสุทธิ์ของพระยาห์เวห์เป็นมลทิน ให้ไล่ผู้นั้นออกจากชนชาติของตน
9. “เมื่อเจ้าทั้งหลายเก็บเกี่ยวผลผลิตในไร่นา ห้ามเกี่ยวเก็บผลผลิตที่ขอบไร่นาจนหมด เมื่อเกี่ยวแล้วก็ห้ามเก็บเมล็ดที่ตกหล่น
10. ห้ามเก็บผลที่สวนองุ่นจนหมด ห้ามเก็บองุ่นที่ตกในสวนของเจ้า จงเหลือไว้ให้คนยากจนและคนต่างด้าวบ้าง เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
11. “ห้ามลักทรัพย์ ห้ามโกง ห้ามมุสาต่อกัน
12. ห้ามสาบานออกนามของเราเป็นความเท็จ ทำให้พระนามพระเจ้าของเจ้าเป็นที่เหยียดหยาม เราคือยาห์เวห์
13. “ห้ามบีบคั้นเพื่อนบ้านหรือปล้นเขา ห้ามให้ค่าจ้างของลูกจ้างค้างอยู่กับเจ้าจนถึงรุ่งเช้า
14. ห้ามแช่งคนหูหนวก ห้ามวางของให้คนตาบอดสะดุด แต่จงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เราคือยาห์เวห์
15. “ห้ามพิพากษาด้วยความอยุติธรรม ห้ามลำเอียงเข้าข้างคนจนหรือเห็นแก่หน้าผู้เป็นใหญ่ แต่เจ้าจงพิพากษาเพื่อนบ้านของเจ้าด้วยความชอบธรรม
16. ห้ามเทียวขึ้นเทียวล่องคอยส่อเสียดท่ามกลางชนชาติของตน และห้ามปองร้ายต่อชีวิตของเพื่อนบ้าน เราคือยาห์เวห์
17. “ห้ามเกลียดชังพี่น้องของเจ้าอยู่ในใจ แต่เจ้าจงตักเตือนเพื่อนบ้านของเจ้า เพื่อเจ้าจะไม่ต้องรับโทษเพราะเขา
18. ห้ามแก้แค้นหรือผูกพยาบาทลูกหลานคนชาติเดียวกับเจ้า แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เราคือยาห์เวห์
19. “จงรักษากฎเกณฑ์ของเรา ห้ามผสมพันธุ์สัตว์ต่างชนิดกัน ห้ามหว่านพืชสองชนิดปนกันในไร่นาของเจ้า ห้ามใช้เครื่องแต่งกายที่ทำด้วยผ้าสองชนิดปนกัน
20. “ถ้าชายใดเข้านอนและมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงที่เป็นทาส ที่ชายอีกคนหนึ่งสู่ขอไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ไถ่ถอนหรือปล่อยเป็นอิสระต้องสืบสวนดูก่อน แต่ห้ามลงโทษเขาทั้งสองถึงตายเพราะว่าทาสหญิงนั้นยังไม่เป็นอิสระ
21. แต่ให้ชายคนนั้นนำเครื่องบูชาชดใช้บาปสำหรับตัวเขา ถวายแด่พระยาห์เวห์ที่ประตูเต็นท์นัดพบ คือแกะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาชดใช้บาป
22. และปุโรหิตจะลบมลทินของเขา โดยถวายแกะผู้นั้นเป็นเครื่องบูชาชดใช้บาปแด่พระยาห์เวห์ เพราะบาปที่เขาได้ทำ และเขาจะได้รับการอภัยบาปซึ่งเขาได้ทำนั้นเสีย
23. “เมื่อพวกเจ้าเข้าไปในแผ่นดินและปลูกต้นไม้ทุกชนิดที่มีผลเป็นอาหาร ผลที่ได้นั้นต้องเป็นผลที่ต้องห้าม ห้ามเจ้ารับประทานเป็นเวลาสามปี
24. และปีที่สี่ผลที่ได้ทั้งหมดจะเป็นของบริสุทธิ์ถวายสรรเสริญแด่พระยาห์เวห์
25. แต่ในปีที่ห้า พวกเจ้ารับประทานผลไม้นั้นได้ เพื่อผลผลิตจะทวีขึ้นเพื่อเจ้า เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
26. “ห้ามรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีเลือดในเนื้อนั้น ห้ามเป็นหมอดูหรือเป็นหมอผี
27. ห้ามกันผมที่จอนหูหรือกันเคราของเจ้า
28. ห้ามเชือดเนื้อของเจ้าเพราะเหตุมีคนตาย หรือสักเป็นเครื่องหมายใดๆ ลงที่ตัวเจ้า เราคือยาห์เวห์
29. “อย่าทำให้บุตรสาวของตนเป็นมลทินโดยให้เป็นหญิงโสเภณี ไม่เช่นนั้นแล้วแผ่นดินจะถูกล่วงละเมิด และเต็มด้วยความชั่ว
30. จงรักษาสะบาโตทั้งหลายของเรา และเคารพต่อสถานนมัสการของเรา เราคือยาห์เวห์
31. “อย่าไปหาคนทรงหรือพ่อมดแม่มด อย่าเที่ยวค้นหาให้ตนเป็นมลทินไปเพราะพวกเขาเลย เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
32. “จงลุกขึ้นคำนับคนผมหงอกและเคารพผู้อาวุโส และจงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เราคือยาห์เวห์
33. “เมื่อคนต่างด้าวอาศัยอยู่กับเจ้าในแผ่นดินของพวกเจ้า ห้ามข่มเหงเขา
34. คนต่างด้าวที่อาศัยอยู่กับพวกเจ้านั้นก็เป็นเหมือนกับคนท้องถิ่นของเจ้า จงรักเขาเหมือนกับรักตัวเอง เพราะว่าพวกเจ้าเคยเป็นคนต่างด้าวในแผ่นดินอียิปต์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
35. “ห้ามทำผิดในการพิพากษา ในการวัดความยาว ในการชั่งน้ำหนักหรือในการนับจำนวน
36. “จงใช้ตาชั่งเที่ยงตรง ลูกตุ้มเที่ยงตรง เครื่องตวงเที่ยงตรง เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้ได้พาเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
37. ฉะนั้น จงรักษากฎเกณฑ์ทั้งหมดของเราและกฎหมายของเราทั้งสิ้น และทำตามเรา เราคือยาห์เวห์”
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)