ค้นหาข้อมูลจากบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เมื่อทูตสวรรค์ (Angel) ไม่ใช่เทวดา?

ทูตสวรรค์หรือแองเจิล เกิดจากพระเจ้าเป็นผู้สร้าง 
และไม่ใช่คนที่ทำดีแล้วไปเกิดเป็นทูตสวรรค์

ความเชื่อเรื่องเทวดามาจากศาสนาฮินดู 
และถูกนำมาใช้กับความเชื่อของชาวสยาม

เทวนิยมหมายถึงการเชื่อเรื่องการมีเทวดา
แต่อเทวนิยมไม่เชื่อเรื่องมีเทวดา

ผมเกิดในครอบครัวชาวพุทธในเมืองไทย พ่อของผมจบการศึกษาทางธรรมในระดับขั้นเปรียญเก้า เมื่อสึกออกมาจึงถูกเรียกว่า “มหา” ตามธรรมเนียมนิยมที่เรียกขานกัน ซึ่งผมเองได้ยินพ่อถูกเรียกอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก

แน่นอนว่าเรื่องราวของความเป็นชาวพุทธในประเทศไทยนั้น เรียกได้ว่าผมมีความเข้าใจแบบไทยๆ มาตั้งแต่เกิดว่า เมืองไทยคือเมืองพุทธ บรรยากาศความเป็นไปก็เหมือนคนไทยทั่วๆ ไป

ยิ่งเข้าเรียนในระดับประถมศึกษาก็มีความเข้าใจมากขึ้น และเรียนรู้เพิ่มขึ้นโดยการสั่งสอนของครูสอนวิชาศีลธรรมว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแบบอเทวนิยม ไม่เชื่อในเรื่องพระเจ้า คือตรงกันข้ามแบบเทวนิยมที่เป็นของชาวคริสต์ ก็เข้าใจอย่างนี้มาตลอด

แต่พอโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ มานับถือในวิถีคริสต์ และศึกษาแบบเอาจริงเอาจังก็ต้องพิศวงงงงวย เพราะศาสนาพุทธในเมืองไทยเป็นพุทธแบบผสม คือยอมรับนับถือศาสนาพราหมณ์หรือฮินดูของอินเดียด้วย แต่เอามาประยุกต์ แบบกึ่งเทวนิยม ซึ่งก็หมายความว่ามีการเคารพนับถือบูชาเทพเจ้าไปด้วย

เทพเทวะที่ผมคุ้นเคยตั้งแต่จำความได้คือ “พระอินทร์” ร่างกายสีเขียว ทั้งยังมีคำถามแบบปัญหาเชาว์ถามกันเล่นๆ ในวัยเด็กว่า “อะไรเอ่ย เขียนเหมือนพระอินทร์ บินเหมือนนก ศรปักอก นกก็ไม่ใช่” คำตอบก็คือ “แมลงทับ”

พระอินทร์ เป็นเทวดาที่ใหญ่สุดในความเชื่อและคำสอนแบบกึ่งเทวนิยมของไทยพุทธ

ในปัจจุบันได้ปรากฏว่ามีเทพเทวะอินเดียมามีอิทธิพลในเมืองไทยอย่างคึกคัก โดยมีพระพิฆเณศเป็นองค์นำ มีคนบูชากันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะพิธีกรรมของเหล่าผู้คนในวงการการแสดงที่เกี่ยวข้องกับพิธีแบบพราหมณ์

แต่จะว่าไปแล้ว ไทยเราก็นำเทพเทวะมาดัดแปลงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “พระอิศวร” หรือ “พระศิวะ”, “พระวิษณุ” หรือ “พระนารายณ์” ส่วน “พระพรหม” เรียกเหมือนกัน

เอาเป็นว่าคนไทย ยอมรับว่ามีเทพเทวะอยู่จริง และสามารถดลบันดาลให้เกิดคุณและโทษกับมนุษย์ ซึ่งโดยปกติมักจะเรียกกันว่า “เทวดา” และมีหลายระดับ ปรากฏเป็นภาพวาดเหล่าเทวดาทั้งชายและหญิงเปลือยท่อนบน สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ พำนักอยู่บนสรวงสวรรค์ หากใครทำคุณงามความดี หลังจากตายไปก็จะได้ขึ้นสวรรค์ไปเกิดเป็นเทวดา จะมีหูทิพย์ ตาทิพย์ และอิ่มทิพย์ และยังมีความเชื่อว่ามีเทวดาประจำบุคคลอยู่ด้วย

ภาพของเทพเทวะที่อยู่ในจิตรกรรมฝาผนัง ถูกถ่ายทอดสู่การแสดงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโขน หรือละครทีวีแนวจักรๆ วงศ์ๆ ความคุ้นเคยในเรื่องเทพเทวะค่อยๆ ฝังตัวในอุดมคติของคนไทย และค่อยๆ เปลี่ยนไป จากเทพเทวะที่อยู่ในชุดฤดูร้อน กลับเปลี่ยนมามีปีกแบบนกแบบเทวดาฝรั่ง ภาพยนตร์หรือละครทีวีก็ยอมรับวัฒนธรรมตะวันตกที่เข้ามาในเมืองไทย มีการแปลภาษาเปรียบเทียบกัน คำว่า “เทวดา” จึงถูกนำไปเปรียบเทียบกับคำว่า “แองเจิล (angel) ” ซึ่งก็พอถูไถไปได้ แม้ความหมายจริงๆ อาจจะไม่ถูกต้องนักตามหลักความเชื่อของศาสนา

แต่ที่ทำให้เพี้ยนไปกว่านั้นก็คือ เมื่อต้นฉบับภาษาอังกฤษซึ่งมีคำว่า “แองเจิล (angel)” ปรากฏอยู่กลับถูกแปลว่า “นางฟ้า” เพราะผลพวงของเรื่องเทพนิยาย (อันนี้ก็แปลผิดอีก) ที่ฝรั่งเรียกว่า “แฟรี่ (fairy)” ไม่ใช่เทพ แต่เป็นเพียง “ภูตผีปิศาจ” ในนิทานฝรั่ง

หากศึกษาเชิงลึกไปอีกก็จะพบว่า “เทวดา” ของไทยกับของฝรั่งเป็นคนละเรื่องเลย ทั้งในแง่ความเชื่อ สถานภาพของเทวดา ทั้งการเรียก และอ้างถึง

“แองเจิล” ตามความเชื่อของฝรั่งหรือศาสนาคริสต์ ถูกแปลตรงๆ ว่า “ทูตสวรรค์” หรือ “เทวทูตของพระเจ้า” ซึ่งมีหน้าที่ส่งข่าวสารที่มาจากสวรรค์หรือจากพระเจ้ามาถึงมวลมนุษย์ และไม่ได้เกิดจากมนุษย์ที่ทำความดีจนได้ไปจุติบนสรวงสวรรค์ แต่ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้า และมีระดับขั้นต่างๆ กัน ซึ่งแตกต่างจากเทพเทวะของอินเดียหรือของไทยอย่างสิ้นเชิง

ดังนั้น การที่เราจะเข้าใจเรื่องของ “แองเจิล” หรือ “ทูตสวรรค์” ตามความเชื่อของชาวคริสต์ ก็ต้องลบภาพความคิดเดิมๆ ทัศนะเดิมๆ ออกเสียก่อนที่จะอ่านเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ต่อไป

ซึ่งท่านผู้อ่านจะเข้าใจเพิ่มมากขึ้น และรู้ว่า “ทูตสวรรค์” ถูกสร้างมาเพื่อเป็นผู้ช่วยให้กับมนุษย์ทุกคน ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหน ทูตสวรรค์ถูกสร้างมาเพื่อท่านอย่างแน่นอน




1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขออนุญาตฝากลิงค์นะคะ
เกมส์คาสิโน แทงบาคาร่า, เล่นรูเล็ต , กำถั่ว และอื่นๆ อีกมากมาย ฝาก-ถอน ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ที่นี่เลยค่ะ
https://www.111player.com