ศจ.ดร. สุรศักดิ์ กิติเรืองแสง
BIT Delivery 2008 ครั้งที่ 5 คริสตจักรสะพานเหลือง
เรื่อง ทูตสวรรค์และกำเนิดซาตาน
เมื่อวันที่ 30/11/2008
สรุปโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์
ต้นกำเนิดของทูตสวรรค์
ทูตสวรรค์ เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งทรงสร้าง (สดุดี 148:2-5)
ความเข้าใจของชาวยิว ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดมาจากพระเจ้าทั้งหมด แม้ว่าพระคัมภีร์จะไม่ได้กล่าวชัดเจนว่าทูตสวรรค์ถูกสร้างเมื่อไร แต่ในโยบ 38:4-7 ได้บอกไว้ว่าน่าจะมีทูตสวรรค์อยู่ก่อนที่โลกจะถูกสร้าง
ลักษณะของทูตสวรรค์
ทูตสวรรค์ คือ สิ่งมีชีวิตที่มีจิตวิญญาณ มีความฉลาด มีอารมณ์ และเจตนารมณ์
ความฉลาด (มัทธิว 8:29; 2โครินธ์ 11:3; 1เปโตร 1:12)
มีการแสดงออกทางอารมณ์ (ลูกา 2:13; ยากอบ 2:19; วิวรณ์ 12:17)
เจตนารมณ์ (ลูกา 8:28-31; 2ทิโมธี 2:26; ยูดา 6)
จากพระคัมภีร์บางตอน ได้กล่าวว่า ทูตสวรรค์สามารถปรากฎเป็นลักษณะเหมือนคนได้
ทูตสวรรค์มีทั้งดีและชั่วร้าย
ทางคาทอลิก เชื้อว่าทูตสวรรค์แบ่งออกเป็น 9 ชั้น
พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงสิ่งเหล่านี้ เพื่อบอกว่า
a. ทูตสวรรค์ไม่ใช่มนุษย์ที่รับพระสิริ
มนุษย์เราถูกสร้างมาตามพระฉายาของพระเจ้า และเราก็แสดงออกถึงลักษณะของพระเจ้า แต่เราไม่ได้เป้นพระเจ้ามนุษย์กับทูตสวรรค์ต่างกัน
a. ทูตสวรรค์ไม่ใช่มนุษย์ที่รับพระสิริ
มนุษย์เราถูกสร้างมาตามพระฉายาของพระเจ้า และเราก็แสดงออกถึงลักษณะของพระเจ้า แต่เราไม่ได้เป้นพระเจ้ามนุษย์กับทูตสวรรค์ต่างกัน
มัทธิว 22:30 ผู้เชื่อจะเป็นเหมือนทูตสวรรค์
สดุดี 8:5 พระเจ้ามนุษย์ให้ต่ำกว่าทูตสวรรค์เพียงชั่วระยะหนึ่ง
1โครินธ์ 6:3 ท้ายสุดมนุษย์ผู้ที่เชื่อก็จะพิพากษาทูตสวรรค์
b. ไม่มีรูปทางกายภาพ
เป็นวิญญาณ (ฮีบรู 1:14) ไม่มีรูปร่าง แต่มีตัวตน
"ทูตสวรรค์ทั้งปวง เป็นเพียงวิญญาณที่รับใช้พระเจ้า ที่ทรงส่งไปปรนนิบัติบรรดาคนที่จะได้รับความรอดไม่ใช่หรือ?" (ฮีบรู 1:14 ThaiTSV2002)
เราทุกคน น่าจะมีประสบการณ์ที่ได้รับการคุ้มครอง ได้รับการช่วยเหลือจากทูตสวรรค์ แม้ว่าเราจะไม่เห็นก็ตาม เพราะพระเจ้าทรงให้ทูตสวรรค์คอยดูแลปกป้องช่วยเหลือเรา
บางครั้งก็สามารถปรากฎเป็นลักษณะบุคคลได้
เป็นวิญญาณ (ฮีบรู 1:14) ไม่มีรูปร่าง แต่มีตัวตน
"ทูตสวรรค์ทั้งปวง เป็นเพียงวิญญาณที่รับใช้พระเจ้า ที่ทรงส่งไปปรนนิบัติบรรดาคนที่จะได้รับความรอดไม่ใช่หรือ?" (ฮีบรู 1:14 ThaiTSV2002)
เราทุกคน น่าจะมีประสบการณ์ที่ได้รับการคุ้มครอง ได้รับการช่วยเหลือจากทูตสวรรค์ แม้ว่าเราจะไม่เห็นก็ตาม เพราะพระเจ้าทรงให้ทูตสวรรค์คอยดูแลปกป้องช่วยเหลือเรา
บางครั้งก็สามารถปรากฎเป็นลักษณะบุคคลได้
c. เป็นหมู่เหล่า ไม่ใช่เผ่าพันธุ์
สดุดี 148:2 ทูตสวรรค์เป็นกอง แต่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์
ลูกา 20:34-36 ไม่มีการสมรส ไม่มีการตาย
ในภาษากรีก คำว่าทูตสวรรค์ เป็นนามเพศชาย แต่จริงๆ แล้วไม่มีเพศ
d. มีปัญญาสูงกว่าปัญญามนุษย์ แต่ไม่สัพพัญญู
ความรอบรู้ของทูตสวรรค์มีความจำกัดเพราะทูตสวรรค์เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา ซึ่งหมายความว่าเหล่าทูตสวรรค์ไม่ได้รอบรู้ไปหมดทุกอย่างเหมือนที่พระเจ้าทรงรอบรู้ (มัทธิว 24:36)
ในศตวรรษที่ 1 รวมถึงพระธรรมโคโลสี ได้บอกว่ามีคนบางกลุ่ม ที่นมัสการทูตสวรรค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
แต่ดูเหมือนว่าทูตสวรรค์จะมีความรอบรู้มากกว่ามนุษย์ (2ซามูเอล 14:20)
ในศตวรรษที่ 1 รวมถึงพระธรรมโคโลสี ได้บอกว่ามีคนบางกลุ่ม ที่นมัสการทูตสวรรค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
แต่ดูเหมือนว่าทูตสวรรค์จะมีความรอบรู้มากกว่ามนุษย์ (2ซามูเอล 14:20)
ปัญญาของทูตสวรค์นั้นสูงกว่าของมนุษย์ เนื่องจากสาเหตุ 3 อย่าง
1. ถูกสร้างขึ้นมาในจักรวาลให้อยู่ในระดับที่สูงกว่ามนุษย์
2. ศึกษาพระคัมภีร์และโลกอย่างละเอียดมากกว่ามนุษย์มาก (ยากอบ 2:19; วิวรณ์ 12:12)
3. ได้รับสติปัญญาจากการเฝ้าดูกิจกรรมของมนุษย์มาเป็นเวลาช้านาน จึงไม่ต้องศึกษาอดีตเหมือนมนุษย์ เรียนรู้ประสบการณ์เหล่านั้นมาแล้วจึงรู้ว่าคนอื่น ๆ มีปฏิกิริยาหรือตอบโต้
e. มีพลังมากกว่ามนุษย์ แต่ไม่ได้มีฤทธานุภาพสูงสุด
2เปโตร 2:11 ฤทธานุภาพเหนือกว่ามนุษย์
เช่น ช่วยออกจากคุก (กิจการ 5:19; 12:7
กลิ้งก้อนหินออกจากอุโมงค์ (มัทธิว 28:2)
พลังจำกัด (วิวรณ์ 12:7)
f. มีภาวะสูงกว่ามนุษย์ แต่ไม่ได้อยู่ทุกหนทุกแห่ง
ไม่สามารถอยู่ต่างสถานที่ในเวลาเดียวกันได้
ประเภทของทูตสวรรค์
ทูตสวรรค์ดี
1. เหล่าทูตสวรรค์ การใช้คำในภาษากรีก มีความหมายถึง ผู้สื่อข่าว ที่จะเป็นมนุษย์หรือทูตสวรรค์ก็ได้
พระเยซูก็เคยกล่าวถึงกองของทูตสวรรค์ (มัทธิว 26:53)
ทูตสวรรค์มากมายเหลือคณานับ เป็นโกษ ๆ แสน ๆ
"แต่ไม่ใช่อย่างนั้น ท่านทั้งหลายมาถึงภูเขาศิโยน และมาถึงนครของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ คือนครเยรูซาเล็มแห่งสวรรค์ และมาถึงที่ชุมนุมรื่นเริงของทูตสวรรค์มากมายเหลือที่จะนับได้" (ฮีบรู 12:22 ThaiTSV2002)
2. พวกเครูบ อาจมีความหมายว่า ปกคลุม หรือพิทักษ์รักษา เช่น ปฐมกาล 3:24; 2พงศ์กษัตริย์ 19:15
"พระองค์ทรงขับไล่ชายนั้นออกไป และทรงตั้งเหล่าเครูบ(หมายถึง ทูตสวรรค์จำพวกหนึ่ง) ทางด้านทิศตะวันออกของสวนเอเดน และตั้งดาบเพลิงอันหนึ่งที่หมุน ได้ไว้เฝ้าทางที่จะไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิตนั้น" (ปฐมกาล 3:24 ThaiTSV2006)
11ชื่อแม่น้ำสายที่หนึ่งคือปิโชน เป็นแม่น้ำที่ไหลรอบแผ่นดินฮาวิลาห์ทั้งหมด ที่มีแร่ทองคำ 12ทองคำที่บริเวณนั้นเป็นทองคำเนื้อดี และมียางไม้ตะคร้ำ(ไม้ยืนต้นชนิดหนึ่งที่มียางไม้สีเหลือง ใส และมีกลิ่นหอม) และโมรา 13ชื่อแม่น้ำสายที่สองคือกิโฮน ไหลรอบแผ่นดินคูชทั้งหมด
เครูปได้บังไว้ ไม่ให้มนุษย์เห็น เช่นเดียวกับหีบพันธสัญญา
3. เสราฟิม ใน 1ซามูเอล 4:4; สดุดี 80:1; สดุดี 80:1; 99:1 พระเจ้าทรงประทับเหนือพวกเครูบ
อิสยาห์ 6:2,6 เสราฟินยืนอยู่เหนือพระองค์ เป็นพวกที่นำนัสการในสวรรค์ งานของพวกนี้เกี่ยวข้องกับการนมัสการและความบริสุทธิ์
4. สิ่งมีชีวิต ภาษาไทยแปลว่า สัตว์ (วิวรณ์ 4:6-9) น่าจะเป็นทูตอีกพวกหนึ่ง
สัตว์ 4 ตัวนี้ บางครั้งก็แปลว่ารวมถึงพระคัมภีร์ 4 เล่ม ได้แก่
มัทธิว อธิบายพระเยซู ผู้ซึ่งเป็นสิงห์แห่งยูดาห์ คือเป็นกษัตยิ์
มาระโก อธิบายพระเยซูผู้รับใช้
ลูกา อธิบายถึงพระเยซูผู้เป็นบุตรมนุษย์
ยอห์น อธิบายพระเยซูผู้ซึ่งเป็นพระวาทะทีได้บังเกิดเป็นมนุษย์
5. อัครเทวทูตาธิบดี มีเพียง 2 ครั้ง คือ ยูดาห์ 9 และ 1เธสะโลนิกา 4:16
ทูตผู้มีฤทธิ์ 7 องค์ คือ อูรีเอล ราฟาเอล รากูเอล มีคาเอล ซารีเอล กาเบรียล และ เรมีเอล (ชื่อจะลงท้ายด้วย "เอล" หรือ "el" เนื่องจากทูตสวรรค์เป็นทูตของพระเจ้า) ชื่อเหล่านี้บางชื่อจะอยู่ในส่วนของอธิกธรรม
6. ผู้พิทักษ์ ดาเนียล 4:13 ผู้พิทักษ์องค์บริสุทธิ์
7. บุตรของพระเจ้า
ในพระคัมภีร์ไทยแปลได้ว่า บรรดาเทพบุตร และอาจหมายถึงบุตรชายของพระเจ้า (ปฐมกาล6:2)
กิจกรรมของทูตสวรรค์
1. สรรเสริญพระเจ้า
2. นมัสการพระเจ้า
3. ชื่นชมยินดีในสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ
4. ปรนนิบัติพระเจ้า
5. ปรากฎอยู่จำเพาะพระพักตร
6. เป็นเครื่องมือที่พระเจ้าทรงใช้ในการพิพากษา
7. นำคำตอบสำหรับคำอธิษฐาน
8. ช่วยนำคนมาหาพระคริสต์
9. เฝ้าติดตามความระเบียบเรียบร้อย การงาน ความทุกข์ยากของคริสเตียน
10. หนุนใจในยามอันตราย
11. ดูแลผู้ชอบธรรมในยามที่เขาเสียชีวิต
ทูตสวรรค์เป็นสิ่งที่ทรงสร้างที่แตกต่างไปจากมนุษย์โดยสิ้นเชิง มนุษย์ไม่ได้กลายเป้นทูตสวรรค์เมื่อเสียชีวิต ทูตสวรรค์ไม่มีวันตายและไม่เคยเป็นมนุษย์ พระจเทรงสร้างทูตสวรรค์เหมือนอย่างที่พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ ไม่มีที่ไหนที่กล่าวว่าทูตสวรรค์ถูกสร้างขึ้นมาตามพระฉายาของพระเจ้า เป็นสิ่งมีชีวิตและจิตวิญญาณที่สามรารถมีตัวตนได้ในระดับหนึ่ง มนุษย์มีตัวตนและมีจิตวิญญาณ สิ่งที่ยิ่งใหหญ่ที่สุดที่เราสามารถเรียนรู้จากทูตสวรรค์ได้ คือ พวกเขาเชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้าอย่างทันทีทันใดโดยไม่มีคำถาม
มนุษย์เรา เป็นเหมือนทูตของพระองค์ ที่จะนำข่าวประเสริฐไปบอกแต่ผู้คน แต่มนุษย์เราก็ไม่ใช่ทูตสวรรค์
กำเนิดซาตาน
ซาตานเป็นทูตสวรรค์ที่หลุดจากตำแหน่งในสวรรค์ อันเนื่องจากความบาป และในตอนนี้มันอยู่มุมตรงข้ามกับพระเจ้าเต็มที่ ทำทุกสิ่งเท่าที่อำนาจของมันจะทำได้เพื่อขัดขวางพระประสงค์ของพระเจ้าที่มีต่อมนุษยชาติ
ซาตานถูกสร้างขึ้นมาในตอนแรกในฐานทูตสวรรค์ที่บริสุทธิ์
อิสยาห์ 14:12 ก่อนที่มันจะล้มลงในความบาป มันมีชื่อว่า "ลูซิเฟอร์"
เอเซเคียล 28:12-14 ซาตานถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นเครูบ และเป็นทูตสวรรค์ระดับสูงสุดที่พระเจ้าทรงสร้าง แต่มันเกิดหลงรูปงามและฐานของตัวเอง จนเกิดความทะนงตนขึ้นมา และตัดสินใจวง่ามันอยากจะนั่งบนพระบัลลังค์อยู่สูงสุด ซึ่เงป็นของพระเจ้า อิสยาห์ 14:13-14
ซาตานกลายเป็นผู้ครอบครองโลกนี้ ซึ่งเดินออกห่างจากพระเจ้า และเจ้าแห่งย่านฟ้าอากาศ (ยอห์น 12:31; 2โครินธ์ 4:4; เอเฟซัส 2:2)
มันเป็นผู้กล่าวโทษ (วิวรณ์ 12:10)
ผู้ล่อใจให้ชั่ว (มัทธิว 4:3,1; 1เธสะโลนิกา 3:5)
และผู้ล่อลวง (ปฐมกาล 3; 2โครินธ์ 4:4; วิวรณ์ 20:3)
ความหมายที่แท้จริงของชื่อของมัน คือ ปรปักษ์ หรือ "ผู้ซึ่งเป็นศัตรู" อีกชื่อหนึ่งที่ซาตานถูกเรียก คือ ผีมาร ซึ่งหมายความว่า "ผู้ใส่ร้าย"
อิสยาห์ 14:12 ก่อนที่มันจะล้มลงในความบาป มันมีชื่อว่า "ลูซิเฟอร์"
เอเซเคียล 28:12-14 ซาตานถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นเครูบ และเป็นทูตสวรรค์ระดับสูงสุดที่พระเจ้าทรงสร้าง แต่มันเกิดหลงรูปงามและฐานของตัวเอง จนเกิดความทะนงตนขึ้นมา และตัดสินใจวง่ามันอยากจะนั่งบนพระบัลลังค์อยู่สูงสุด ซึ่เงป็นของพระเจ้า อิสยาห์ 14:13-14
ซาตานกลายเป็นผู้ครอบครองโลกนี้ ซึ่งเดินออกห่างจากพระเจ้า และเจ้าแห่งย่านฟ้าอากาศ (ยอห์น 12:31; 2โครินธ์ 4:4; เอเฟซัส 2:2)
มันเป็นผู้กล่าวโทษ (วิวรณ์ 12:10)
ผู้ล่อใจให้ชั่ว (มัทธิว 4:3,1; 1เธสะโลนิกา 3:5)
และผู้ล่อลวง (ปฐมกาล 3; 2โครินธ์ 4:4; วิวรณ์ 20:3)
ความหมายที่แท้จริงของชื่อของมัน คือ ปรปักษ์ หรือ "ผู้ซึ่งเป็นศัตรู" อีกชื่อหนึ่งที่ซาตานถูกเรียก คือ ผีมาร ซึ่งหมายความว่า "ผู้ใส่ร้าย"
แม้ว่ามันจะถูกขับออกจากสวรรค์ มันก็ยังพยายามยกบัลลัก์ให้สูงกว่าพระเจ้า ลอกเลียนทุกอย่างที่พระเจ้าทรงกระทำ ด้วยหวังที่จะได้รับการนมัสการจากมนุษย์และทำให้อาณาจักรของพระเจ้าปั่วป่วน
ซาตานคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังลัทธิเทียมเท็จและศาสนาของโลก ทุกศาสนาตัวจริง มันจะทำทุกอย่างเท่าที่มันจะมีอำนาจที่จะทำได้เพื่อต่อต้านพระเจ้า และคนที่ติดตามพระองค์ แต่จุดหมายปลายทางของมันได้ถูกประทับตราไว้แล้ว นั่นคือ บึงไฟนรกชั่วรันดร์ (วิวรณ์ 20:10)
จริงๆ แล้วซาตานไม่ได้มีอำนาจมากมาย แต่ในปัจจุบันจะเห็นว่าการงานของมารเกิดได้ เนื่องจากมนุษย์ยอม และเชื่อฟังมัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น