เอเปเนทัส โปรเจค (Epaenetus ProJect)
นำคนไทย ให้รู้จักพระเจ้า ภายใน 2 ปี
คำกล่าวของเปาโลที่ยังคงท้าทายคริสเตียนยุคปัจจุบันให้ทำเยี่ยงเขานำคนไทย ให้รู้จักพระเจ้า ภายใน 2 ปี
เอเปเนทัส โปรเจค (Epaenetus ProJect) คือโครงการสัมมนา 5 ตอน ๆ ละ ประมาณ 40 นาที เพื่อเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจในการประกาศด้วยหัวข้อพื้นฐานอย่างง่ายๆ ดังเช่น
1. เจตนารมณ์ของพระเจ้า
2. ทายาททางความเชื่อ
3. การพูดและการฟัง
4. การทุ่มเททั้งชีวิต
5. รวมเทคนิคการประกาศ
โครงการนี้ได้เริ่มขึ้นแล้วที่ภาคเหนือที่เชียงราย และเชียงใหม่ โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ ถูกใช้อบรมในค่ายอนุชน ผลก็คือเด็กวัยรุ่นกว่า 40 คนได้รับรู้เทคนิคและแรงบันดาลใจดังกล่าว และมีกว่า 10 คนที่ยกมือถวายตัวเพื่อเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ (มิชชั่นนารี) หลังจากนั้นพวกเขาก็จัดการประกาศและแจ้งข่าวกลับมาว่ามีผู้เชื่อใหม่ถึง 12 คน.ในการประกาศของพวกเขา
อนุชนที่เชียงใหม่เข้าค่าย HI-U CAMP 6-8 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ได้ผ่านการอบรม “เอเปเนทัส โปรเจค” แล้ว
มูลนิธิสื่อใจไทย มองเห็นว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมคนรุ่นใหม่ให้ใส่ใจในการประกาศ จึงบันทึกเทปสัมมนาดังกล่าวและจัดทำเป็น DVD 5 ตอน ความยาวกว่า 4 ชม. เพื่อเผยแพร่โครงการดังกล่าวในรูปแบบสื่อวิดีทัศน์
เนื้อหาต่างๆ มาจากข้อพระคัมภีร์ เป็นวิธีการและประสบการณ์ของสาวกในยุคแรก จากบันทึกในยุคนั้นทำให้เรารู้ว่า คริสเตียนยุคแรกนั้นเป็นมิชชั่นนารีกันทุกคน และที่สำคัญชื่อของโครงการนี้มาจากชื่อบุคคลๆ หนึ่งที่อยู่ในพระคัมภีร์ และได้ชื่อว่าเป็นคริสเตียนคนแรกในเอเชียด้วย
“และขอฝากความคิดถึงมายังคริสตจักรที่อยู่ในบ้านเขาด้วย ขอฝากความคิดถึงมายังเอเปเนทัสที่รักของข้าพเจ้า ผู้เป็นคนแรกที่เข้ามาเชื่อในพระคริสต์ในแคว้นเอเชีย” โรม 16:5
การทำงานของเปาโลได้ทำให้คนทั่วเอเชียได้ยินข่าวประเสริฐของพระเจ้า “ท่านได้กระทำอย่างนั้นสิ้น 2 ปีจนชาวแคว้นเอเชีย ทั้งพวกยิวและพวกกรีกได้ยินพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า” กิจการ 19:10
ในสมัยดึกดำบรรพ์ชาวเอเฟซัสเชื่อกันว่าเป็นรูปของพระแม่อารเทมิส
“..และท่านทั้งหลายได้รู้เห็นอยู่ว่า ไม่ใช่เฉพาะในเมืองเอเฟซัสเมืองเดียว แต่เกือบทั่วแคว้นเอเชีย เปาโลคนนี้ได้เกลี้ยกล่อมใจคนเป็นอันมากให้เลิกทางเก่าเสีย โดยได้กล่าวว่าพระรูปที่มือมนุษย์ทำนั้นไม่ใช่พระ...” กิจการ 19:26
ในตอนที่ 4 ที่ชื่อว่า “การทุ่มเททั้งชีวิต” นั้น ได้กล่าวถึงการทำงานของมิชชั่นนารี 2 ท่านซึ่งเป็นชาวอเมริกันที่มาทำการประกาศในเมืองสยามเมื่อ 180 ปีที่ผ่านมานั่นคือ “หมอบรัดเลย์” (พ่อตา) และ “หมอแมคกิลวารี” (ลูกเขย) ซึ่งทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันอย่างดีเหตุเพราะ “โซเฟีย รอยส์” ลูกสาวของหมอบรัดเลย์ได้แต่งงานและยอมมาอยู่ที่เชียงใหม่ด้วย มิชชั่นนารีกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่มาทำงานที่เมืองสยาม แต่ทั้งหมดเสียชีวิตอยู่ที่นี่ด้วย นับว่าเป็นแบบอย่างที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน อีกทั้งยังกล่าวถึงจุดจบของอัครสาวกทั้ง 12 คน ที่ยอมพลีชีพเพื่อการประกาศในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก
ในตอนที่ 4 ที่ชื่อว่า “การทุ่มเททั้งชีวิต” นั้น ได้กล่าวถึงการทำงานของมิชชั่นนารี 2 ท่านซึ่งเป็นชาวอเมริกันที่มาทำการประกาศในเมืองสยามเมื่อ 180 ปีที่ผ่านมานั่นคือ “หมอบรัดเลย์” (พ่อตา) และ “หมอแมคกิลวารี” (ลูกเขย) ซึ่งทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันอย่างดีเหตุเพราะ “โซเฟีย รอยส์” ลูกสาวของหมอบรัดเลย์ได้แต่งงานและยอมมาอยู่ที่เชียงใหม่ด้วย มิชชั่นนารีกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่มาทำงานที่เมืองสยาม แต่ทั้งหมดเสียชีวิตอยู่ที่นี่ด้วย นับว่าเป็นแบบอย่างที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน อีกทั้งยังกล่าวถึงจุดจบของอัครสาวกทั้ง 12 คน ที่ยอมพลีชีพเพื่อการประกาศในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก
มัทธิวเดินทางไปประกาศถึงประเทศอินเดีย
และถูกลอบสังหารโดยการถูกหอกแทงตาย
และยังกล่าวถึงการพลีชีพของชาวเชียงใหม่ 2 คน ส่งผลให้เกิดเสรีภาพในการประกาศพระกิตติคุณในยุคนั้น และส่งผลมาถึงปัจจุบันด้วย แต่จะมีคริสเตียนรุ่นใหม่สักกี่คนที่รู้ถึงเรื่องราวเหล่านี้
หลุมฝังศพของหมอบรัดเลย์ที่สุสานฝรั่งในกรุงเทพฯ
หลุมฝังศพของแมคกิลวารีที่เชียงใหม่
“ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ท่านรู้ว่าครอบครัวของสเทฟานัส เป็นคริสเตียนพวกแรกในแคว้นอาคายา และพวกเขาได้ถวายตัวไว้ในการปรนนิบัติธรรมิกชนทั้งปวง” 1 โครินธ์ 16:15
จากพระธรรมตอนนี้แสดงให้เห็นว่าคริสเตียนพวกแรกก็ถวายตัวรับใช้พระเจ้าแล้ว แสดงว่าการประกาศในยุคแรกประกาศเพื่อสร้างสาวกให้ถวายตัวรับใช้ต่อไป (แล้วทำไมประเทศของเราจึงไม่เป็นแบบนี้บ้าง?)
อยากให้คริสเตียนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจในการประกาศ ไม่พลาดจากเรื่องราวเหล่านี้
จากพระธรรมตอนนี้แสดงให้เห็นว่าคริสเตียนพวกแรกก็ถวายตัวรับใช้พระเจ้าแล้ว แสดงว่าการประกาศในยุคแรกประกาศเพื่อสร้างสาวกให้ถวายตัวรับใช้ต่อไป (แล้วทำไมประเทศของเราจึงไม่เป็นแบบนี้บ้าง?)
อยากให้คริสเตียนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจในการประกาศ ไม่พลาดจากเรื่องราวเหล่านี้
ภาพถ่ายคริสเตียนที่เชียงใหม่กลุ่มแรกๆ
และหนึ่งในนั้นคือ “หนานตา” ผู้เป็นศิษยาภิบาลคนแรกของคริสตจักรที่ 1 เชียงใหม่ด้วย
(คนที่นั่งเก้าอี้คนที่ 2 จากขวามือ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น