บทสรุปของ ยูดา 1:9 ฝ่ายอัครเทวทูตาธิบดีมีคาเอล ครั้งเมื่อท่านโต้เถียงกับมารเรื่องศพของโมเสส ท่านเองก็ยังไม่บังอาจกล่าวก้าวร้าวต่อมารเลย เป็นแต่เพียงกล่าวว่า “ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงขนาบเจ้าเถิด”
โต้เถียงกันยังไง ลองอ่านดู...ผมเอามาจากบางส่วนของหนังสือ ASCENSION OF MOSES การขึ้นสวรรค์ของโมเสส
บทสรุปในเล่มนี้กล่าวว่า โมเสสจึงกล่าวแก่โยชูวาบุตรชายนูนว่า "ให้เราขึ้นไปบนภูเขา"
เมื่อพวกเขาขึ้นไป โมเสสได้มองเห็นดินแดนแห่งพันธสัญญา และพระเจ้าตรัสแก่เขาว่า "จงลงไปหาประชาชน และบอกเขาว่าโมเสสสิ้นชีวิตแล้ว"
เมื่อโยชูวาเริ่มลงไปหาพลไพร่ และโมเสสได้สิ้นชีวิตแล้ว เมื่อโมเสสมาถึงปลายสุดทางของตนบนภูเขา Sammael (ซามมาเอล อีกชื่อหนึ่งของซาตาน) ผู้ใส่ร้ายพยายามที่จะนำศพของเขาลงไปสู่ประชาชนเพื่อจะสถาปนาให้เขาเป็นดังเทพเจ้า
แต่มีคาเอล อัครเทวทูตาธิบดีของพระเจ้า ทรงบัญชาให้มาพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์อื่นๆ เพื่อที่จะได้ฝังไว้ แต่ Sammael ไม่ยอมให้เขาเอาศพออกไป เพราะอยากจะหลอกลวงเขา จึงต่อต้านเขา และพวกเขาก็โต้แย้งกัน
ผู้ใส่ร้ายกล่าวว่า "ร่างกายของเราเป็นของฉัน เพราะเราเป็นเจ้านายของสิ่งสารพัด"
ผู้ใส่ร้ายก็กล่าวว่า "พระเจ้ากล่าวเท็จ โดยนำโมเสสเข้าไปในดินแดนที่เขาสาบานว่าเขาไม่ควรเข้าไป"
มีคาเอลจึงตอบว่า "เพราะงูที่ท่านได้รับการยกให้เป็นเหตุ ให้เกิดการละเมิดของอาดัม และอีวา"
ผู้ใส่ร้ายก็เยาะเย้ยโมเสส ประกาศว่า "โมเสสเป็นคนฆ่าคน เขาฆ่าชายคนหนึ่งในอียิปต์ และซ่อนตัวเขาไว้ในทราย" ด้วยเหตุนี้ผู้ใส่ร้ายจึงไม่อนุญาตให้เขาได้รับการฝังศพอย่างมีเกียรติ
มีคาเอลครเทวทูตาธิบดีของพระเจ้า ไม่ยอมที่จะทน เพราะเขาไม่มีอำนาจ จึงไม่กล้าที่จะตัดสินคำที่หยิ่งยะโสของมัน จึงประกาศต่อผู้ใส่ร้ายป้ายว่า "ฉันหวังว่าพระเจ้าจะทรงตำหนิเจ้า"
แล้วมีคาเอลก็อธิษฐานต่อพระเจ้า และองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงส่งฟ้าร้องและฟ้าแลบออกจากฟ้าสวรรค์ และด้วยเหตุนี้ผู้ใส่ร้ายก็พากันบินและหายตัวไป
ดูเหมือนว่าเมฆบางส่วนหรือแสงส่องเข้ามาในสถานที่ดังกล่าว ปิดบังและเป็นกำแพงกั้นออกจากผู้คนเพื่อไม่ให้พวกเขารู้ตำแหน่งของหลุมฝังศพของโมเสส ฝ่ายโยชูวาบุตรชายนูนได้เห็นเหตุการณ์นี้จากเบื้องบน เมื่อเขาพร้อมกับคาเลบถูกยกขึ้นโดยอำนาจที่มองไม่เห็น
โมเสสที่แท้จริงคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ในอำนาจที่มองไม่เห็น แต่อีกคนก็ตายในร่างกายปกติ ซึ่งแท้จริงพระองค์ได้เสด็จไปกับบรรดาเหล่าทูตสวรรค์ที่เป็นสหายของพระองค์ และได้ทรงตั้งพระนามใหม่ไว้ในสวรรค์ว่า Melchi โดยพระบัญชาของพระเจ้า ด้วยการจัดการของอัครเทวทูตาธิบดี มีคาเอล และมุ่งมั่นที่จะแผ่นดินเป็นเกียรติกับการฝังศพในหุบเขาบนภูเขาที่มีคาเอลฝังเขาด้วยมือของตนเอง และบรรดาทูตสวรรค์ผู้ทรงเตรียมศพของโมเสส สำหรับการฝังศพนั้นไม่ได้กระทำให้ตัวมลทินด้วยการแตะต้องร่างกายของโมเสส
ทั้งโยชูวาและคาเล็บไม่เห็นเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่จริงๆ แล้ว คนหนึ่งซึ่งลงมาด้วยความเร็วมาก (ราวกับว่าเขาตัวเบามาก); ในขณะที่อีกคนหนึ่งเมื่อลงมา หลังจากที่เขาได้เล่าถึงพระสิริที่เขาได้เห็น (เพราะความบริสุทธิ์กว่าคนอื่น เขาจึงสามารถเข้าใจได้มากขึ้น)
การศึกษาเชิงลึก เราจึงหาอ่านทุกเรื่องที่ค้นหาข้อมูลได้ เพื่อเสริมความเชื่อ ความเข้าใจในพระวจนะของพระเจ้า
เพราะถ้าจะตัดออก และไม่เอา เพราะรู้สึกเยอะแล้ว ก็คงควรที่จะตัดหนังสือยูดา ออกด้วย เพราะว่าได้อ้างอิงถึงเรื่องนี้!
โต้เถียงกันยังไง ลองอ่านดู...ผมเอามาจากบางส่วนของหนังสือ ASCENSION OF MOSES การขึ้นสวรรค์ของโมเสส
หนังสือ Assumption of Moses อยู่ในหมวด Other Apocrypha |
บทสรุปในเล่มนี้กล่าวว่า โมเสสจึงกล่าวแก่โยชูวาบุตรชายนูนว่า "ให้เราขึ้นไปบนภูเขา"
เมื่อพวกเขาขึ้นไป โมเสสได้มองเห็นดินแดนแห่งพันธสัญญา และพระเจ้าตรัสแก่เขาว่า "จงลงไปหาประชาชน และบอกเขาว่าโมเสสสิ้นชีวิตแล้ว"
เมื่อโยชูวาเริ่มลงไปหาพลไพร่ และโมเสสได้สิ้นชีวิตแล้ว เมื่อโมเสสมาถึงปลายสุดทางของตนบนภูเขา Sammael (ซามมาเอล อีกชื่อหนึ่งของซาตาน) ผู้ใส่ร้ายพยายามที่จะนำศพของเขาลงไปสู่ประชาชนเพื่อจะสถาปนาให้เขาเป็นดังเทพเจ้า
แต่มีคาเอล อัครเทวทูตาธิบดีของพระเจ้า ทรงบัญชาให้มาพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์อื่นๆ เพื่อที่จะได้ฝังไว้ แต่ Sammael ไม่ยอมให้เขาเอาศพออกไป เพราะอยากจะหลอกลวงเขา จึงต่อต้านเขา และพวกเขาก็โต้แย้งกัน
ผู้ใส่ร้ายกล่าวว่า "ร่างกายของเราเป็นของฉัน เพราะเราเป็นเจ้านายของสิ่งสารพัด"
แต่ทูตสวรรค์กล่าวว่า "ด้วยว่าวิญญาณของผู้บริสุทธิ์ของพระองค์ เราได้รับการสร้างขึ้น และจากพระพักตร์ของพระเจ้าจิตวิญญาณของเขาก็ออกไป และโลกก็กลายเป็น..."
ผู้ใส่ร้ายก็กล่าวว่า "พระเจ้ากล่าวเท็จ โดยนำโมเสสเข้าไปในดินแดนที่เขาสาบานว่าเขาไม่ควรเข้าไป"
มีคาเอลจึงตอบว่า "เพราะงูที่ท่านได้รับการยกให้เป็นเหตุ ให้เกิดการละเมิดของอาดัม และอีวา"
ผู้ใส่ร้ายก็เยาะเย้ยโมเสส ประกาศว่า "โมเสสเป็นคนฆ่าคน เขาฆ่าชายคนหนึ่งในอียิปต์ และซ่อนตัวเขาไว้ในทราย" ด้วยเหตุนี้ผู้ใส่ร้ายจึงไม่อนุญาตให้เขาได้รับการฝังศพอย่างมีเกียรติ
มีคาเอลครเทวทูตาธิบดีของพระเจ้า ไม่ยอมที่จะทน เพราะเขาไม่มีอำนาจ จึงไม่กล้าที่จะตัดสินคำที่หยิ่งยะโสของมัน จึงประกาศต่อผู้ใส่ร้ายป้ายว่า "ฉันหวังว่าพระเจ้าจะทรงตำหนิเจ้า"
แล้วมีคาเอลก็อธิษฐานต่อพระเจ้า และองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงส่งฟ้าร้องและฟ้าแลบออกจากฟ้าสวรรค์ และด้วยเหตุนี้ผู้ใส่ร้ายก็พากันบินและหายตัวไป
ดูเหมือนว่าเมฆบางส่วนหรือแสงส่องเข้ามาในสถานที่ดังกล่าว ปิดบังและเป็นกำแพงกั้นออกจากผู้คนเพื่อไม่ให้พวกเขารู้ตำแหน่งของหลุมฝังศพของโมเสส ฝ่ายโยชูวาบุตรชายนูนได้เห็นเหตุการณ์นี้จากเบื้องบน เมื่อเขาพร้อมกับคาเลบถูกยกขึ้นโดยอำนาจที่มองไม่เห็น
โมเสสที่แท้จริงคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ในอำนาจที่มองไม่เห็น แต่อีกคนก็ตายในร่างกายปกติ ซึ่งแท้จริงพระองค์ได้เสด็จไปกับบรรดาเหล่าทูตสวรรค์ที่เป็นสหายของพระองค์ และได้ทรงตั้งพระนามใหม่ไว้ในสวรรค์ว่า Melchi โดยพระบัญชาของพระเจ้า ด้วยการจัดการของอัครเทวทูตาธิบดี มีคาเอล และมุ่งมั่นที่จะแผ่นดินเป็นเกียรติกับการฝังศพในหุบเขาบนภูเขาที่มีคาเอลฝังเขาด้วยมือของตนเอง และบรรดาทูตสวรรค์ผู้ทรงเตรียมศพของโมเสส สำหรับการฝังศพนั้นไม่ได้กระทำให้ตัวมลทินด้วยการแตะต้องร่างกายของโมเสส
ทั้งโยชูวาและคาเล็บไม่เห็นเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่จริงๆ แล้ว คนหนึ่งซึ่งลงมาด้วยความเร็วมาก (ราวกับว่าเขาตัวเบามาก); ในขณะที่อีกคนหนึ่งเมื่อลงมา หลังจากที่เขาได้เล่าถึงพระสิริที่เขาได้เห็น (เพราะความบริสุทธิ์กว่าคนอื่น เขาจึงสามารถเข้าใจได้มากขึ้น)
การศึกษาเชิงลึก เราจึงหาอ่านทุกเรื่องที่ค้นหาข้อมูลได้ เพื่อเสริมความเชื่อ ความเข้าใจในพระวจนะของพระเจ้า
เพราะถ้าจะตัดออก และไม่เอา เพราะรู้สึกเยอะแล้ว ก็คงควรที่จะตัดหนังสือยูดา ออกด้วย เพราะว่าได้อ้างอิงถึงเรื่องนี้!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น