เยรูซาเล็ม คือเมืองหลวงของอิสราเอล
กรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองที่พระเป็นเจ้าทรงเลือกสรรไว้ให้เป็นป้อมปราการแห่งความเชื่อ เพื่อรำลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า แต่เพียงพระองค์เดียว
จากเนินเขาที่โล่งแจ้งนี้ บรรดาผู้เผยพระวจนะและพระเยซูคริสต์เองทรงประกาศคำสั่งสอนของพระผู้เป็นเจ้าและบทบัญญัติแห่งความรัก
จากดินแดนนี้ ไฟแห่งความเชื่อได้แพร่ไป พร้อมกับมุ่งขจัดความมืดมนแห่งการหลงผิด และการนับถือพระเทียมเท็จต่างๆ ให้หมดสิ้นไป
"เพราะว่าธรรมบัญญัติจะออกมาจากศิโยน และพระวจนะของพระยาห์เวห์จะออกมาจากเยรูซาเล็ม " อสย.2:3
เยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงทางศาสนาของประชากรโลก ราวครึ่งหนึ่งของมนุษยชาติ สำหรับชาวยิวเป็นสัญลักษณ์แห่งขุมพระพรอันดั้งเดิม และเป็นความหวังสำหรับอนาคต
สำหรับชาวคริสต์ เยรูซาเล็มเป็นเมืองที่พระเยซูคริสต์ทรงประกอบภารกิจในช่วงระยะเวลาสุดท้าย แห่งพระชนม์ชีพของพระองค์ เมืองที่ได้เป็นพยานถึงการสิ้นพระชนม์ และการกลับฟื้นคืนชีพของพระองค์
กรุงเยรูซาเล็ม เป็นแหล่งกำเนิดความเชื่อและสันติ เมืองที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลก ยังได้เป็นเมืองแห่งความทารุณโหดร้ายแห่งสงครามครูเสด และการหลั่งเลือด ณ ประตูเมืองแห่งนี้มีการสู้รบมากกว่าที่เมืองอื่นใดๆ ในโลกจะมี กรุงเยรูซาเล็มถูกล้อมมากกว่า 50 ครั้ง ถูกยึดถึง 36 ครั้ง และถูกทำลายมากกว่า 10 ครั้ง
ไม่มีผู้ใดทราบว่ากรุงเยรูซาเล็มเริ่มมีตัวตนขึ้นมาเมื่อใด ครั้งแรกที่พระคัมภีร์พูดถึง ก็คือ สมัยของอับราฮัม โดยมีชื่อเมืองว่า "ซาเลม" ซึ่งแปลว่า “สันติสุข”
"เมลคีเซเดคผู้เป็นทั้งกษัตริย์ซาเลม และปุโรหิตของพระเจ้าผู้สูงสุด ก็นำขนมปังกับเหล้าองุ่นมาให้” (ปฐก 14:18)
ในศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาล กษัตริย์ดาวิดได้ยึดเมืองนี้และตั้งเป็นเมืองหลวง โดยนำหีบแห่งพันธสัญญามาประดิษฐานไว้
ช่วงเวลา
กรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองที่พระเป็นเจ้าทรงเลือกสรรไว้ให้เป็นป้อมปราการแห่งความเชื่อ เพื่อรำลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า แต่เพียงพระองค์เดียว
จากเนินเขาที่โล่งแจ้งนี้ บรรดาผู้เผยพระวจนะและพระเยซูคริสต์เองทรงประกาศคำสั่งสอนของพระผู้เป็นเจ้าและบทบัญญัติแห่งความรัก
จากดินแดนนี้ ไฟแห่งความเชื่อได้แพร่ไป พร้อมกับมุ่งขจัดความมืดมนแห่งการหลงผิด และการนับถือพระเทียมเท็จต่างๆ ให้หมดสิ้นไป
"เพราะว่าธรรมบัญญัติจะออกมาจากศิโยน และพระวจนะของพระยาห์เวห์จะออกมาจากเยรูซาเล็ม " อสย.2:3
เยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงทางศาสนาของประชากรโลก ราวครึ่งหนึ่งของมนุษยชาติ สำหรับชาวยิวเป็นสัญลักษณ์แห่งขุมพระพรอันดั้งเดิม และเป็นความหวังสำหรับอนาคต
สำหรับชาวคริสต์ เยรูซาเล็มเป็นเมืองที่พระเยซูคริสต์ทรงประกอบภารกิจในช่วงระยะเวลาสุดท้าย แห่งพระชนม์ชีพของพระองค์ เมืองที่ได้เป็นพยานถึงการสิ้นพระชนม์ และการกลับฟื้นคืนชีพของพระองค์
กรุงเยรูซาเล็ม เป็นแหล่งกำเนิดความเชื่อและสันติ เมืองที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลก ยังได้เป็นเมืองแห่งความทารุณโหดร้ายแห่งสงครามครูเสด และการหลั่งเลือด ณ ประตูเมืองแห่งนี้มีการสู้รบมากกว่าที่เมืองอื่นใดๆ ในโลกจะมี กรุงเยรูซาเล็มถูกล้อมมากกว่า 50 ครั้ง ถูกยึดถึง 36 ครั้ง และถูกทำลายมากกว่า 10 ครั้ง
ไม่มีผู้ใดทราบว่ากรุงเยรูซาเล็มเริ่มมีตัวตนขึ้นมาเมื่อใด ครั้งแรกที่พระคัมภีร์พูดถึง ก็คือ สมัยของอับราฮัม โดยมีชื่อเมืองว่า "ซาเลม" ซึ่งแปลว่า “สันติสุข”
"เมลคีเซเดคผู้เป็นทั้งกษัตริย์ซาเลม และปุโรหิตของพระเจ้าผู้สูงสุด ก็นำขนมปังกับเหล้าองุ่นมาให้” (ปฐก 14:18)
ในศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาล กษัตริย์ดาวิดได้ยึดเมืองนี้และตั้งเป็นเมืองหลวง โดยนำหีบแห่งพันธสัญญามาประดิษฐานไว้
ช่วงเวลา
- 965-922 ปีก่อนคริสตกาล กษัตริย์โซโลมอนได้ปรับปรุงเมืองนี้และสร้างพระวิหาร
- 587 ปีก่อนคริสตกาล ชาวบาบิโลนได้ยึดกรุงเยรูซาเล็ม ทำลายพระวิหาร และนำชาวยิวไปเป็นทาสในบาบิโลน
- 538 ปีก่อนคริสตกาล ชาวยิวได้กลับสู่กรุงเยรูซาเล็ม และสร้างพระวิหารขึ้นมาใหม่
- 332 ปีก่อนคริสตกาล อเล็กซานเดอร์มหาราชได้ยึดกรุงเยรูซาเล็ม
- 168 ปีก่อนคริสตกาล กษัตริย์อันติโอกุส เอปีฟาเนส ได้ทำลายกำแพงกรุงเยรูซาเล็ม
- 63 ปีก่อนคริสตกาล ชาวโรมยึดเมือง
- 37 ปีก่อนคริสตกาล เฮโรดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ของชาวยิว พระองค์เป็นนักก่อสร้างและปรับปรุงกรุงเยรูซาเล็มให้สวยงาม ได้สร้างกำแพงและพระวิหาร ขึ้นมาใหม่ให้สวยงามกว่าในสมัยของซาโลมอน
- ปี ค.ศ.70 กรุงเยรูซาเล็มถูกทำลายโดยแม่ทัพทิตัส
- ปี ค.ศ.132-135 จักรพรรดิเอเดรียนได้สร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ตามแบบของเมืองโรมัน ตั้งชื่อว่า "เอลีอา กาปี โตลียา" และสร้างแท่นบูชาแด่พระเทียมเท็จบนซากของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิว และชาวคริสต์ และพวกยิวถูกห้ามเข้าเมืองอย่างเด็ดขาด หากจับได้ จะมีโทษมีประหารชีวิต
- ปี ค.ศ.330 จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 มหาราชผู้กลับใจ ได้เปลี่ยนกรุงเยรูซาเล็มให้เป็นเมืองของชาวคริสต์
- ปี ค.ศ.614 ชาวเปอร์เซียยึดกรุงเยรูซาเล็ม และทำลายโบสถ์วิหารต่างๆ
- ปี ค.ศ.636 กรุงเยรูซาเล็มตกอยู่ภายในอำนาจของชาวอาหรับ ซึ่งได้รักษาอำนาจนี้ตลอดมาเป็นเวลา 500 ปี
- ปี ค.ศ.1099 กรุงเยรูซาเล็มถูกยึดโดยนักรบครูเสดและกลับมาเป็นที่ตั้งของอาณาจักรละติน
- ปี ค.ศ.1187 กรุงเยรูซาเลมถูกยึดคืนโดยชาวมุสลิมภายใต้การนำของซาลาดิน
- ปี ค.ศ.1517 เมืองตกอยู่ในเงื้อมมือของชาวเติร์ก และอยู่ในการปกครองตลอด 400 ปี
- ปี ค.ศ.1917 พันธมิตรได้ยึดกรุงเยรูซาเล็มและให้อยู่ใต้การปกครองของทหารอังกฤษ
- ปี ค.ศ.1948 สงครามระหว่างยิวและชาวอาหรับ กรุงเยรูซาเล็มถูกแบ่งดินแดนเป็นเยรูซาเล็มตะวันตก ปกครองโดยอิสราเอล และเยรูซาเล็มตะวันออก ปกครองโดยจอร์แดน และเป็นเมืองหลวงของประเทศอิสราเอลในส่วนที่เป็นเยรูซาเล็มตะวันตก
- ระหว่างสงคราม 6 วัน ใน ค.ศ. 1967เยรูซาเล็มตะวันออกจึงตกอยู่ ภายใต้การปกครองของอิสราเอล และตามกฎหมายซึ่งออกใน ค.ศ. 1980 เยรูซาเล็มจึงเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ...
- ปี ค.ศ.2017 ปธน.ทรัมป์ (สหรัฐอเมริกา) ประกาศรองรับเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น