อรรถาธิบาย โยชูวา บทที่ 2
คริสเตียนคนไทยอาจไม่คุ้นเคยกับรากภาษาฮีบรูโบราณสักเท่าไหร่ พอแปลมาในเวอร์ชั่นภาษาไทยก็ไม่ได้เทียบความหมายของภาษาเดิมให้
คำว่า เทวทาสี (หญิง) หรือเทวทาส (ชาย) (Temple Prostitute) ก็คือ โสเภณี หรือ หญิงงามเมือง นั่นเอง
และคำว่า "ค่าจ้างจากสุนัข (The Price of a Dog)" ใน ฉธบ.23:17-18 ไม่ได้หมายถึงการเลี้ยงสุนัข หรือทำคอกเพาะพันธุ์สุนัขขาย แต่หมายถึงการล่วงประเวณีในพิธีกรรมทางศาสนา ระหว่างชายกับชาย The Wage of a Male Prostitute หรือที่เรียกว่า Sodomite (อ้างอิงถึงเมืองโสโดม-โกโมราห์นั่นเอง)
ในคลิปของสัปดาห์แรกของเรา (คิดว่าเป็นโสเภณี) ที่มีการอ้างถึงพงศ์พันธ์ของพระเยซูในหนังสือมัทธิว บทที่ 1:1-17 ว่าแบ่งเป็น 14 ช่วง x 3 ซึ่งรวมแล้วน่าจะได้ 42 รุ่น
แต่ผมปรากฎว่า ช่วงที่ 3 มีเพียงแค่ 13 รุ่นเท่านั้น โดยจบที่พระเยซู
เราจึงหาข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อมาอธิบายซึ่งที่หายไปจากตอนนี้
1. ทฤษฎีแรก ในช่วงที่ 2 ของยุคพงศ์กษัตริย์ของยูดาห์ หายไป 1 ชื่อ คือ "เยโฮยาคิม" (จาก 1 พศด.3:15) ถ้ารวมชื่อนี้เข้าไปจะทำให้ครบ 42 รุ่น (แต่จะทำให้ช่วงที่ 2 มี 15 รุ่น ถึงจะครบ 42 รุ่นก็ตาม)
2. ทฤษฎีที่สอง กล่าวว่า พระเยซูคือรุ่นที่ 13 และ 14 เพราะรุ่นที่ 13 นับต่อจากโยเซฟที่เป็นบิดาทางการนับ ส่วนรุ่นที่ 14 เป็นบุตรพระเจ้าตอนรับพระวิญญาณหลังจากบัพติศมา หรือตอนเป็นขึ้นมาจากความตาย (เหตุผลนี้เป็นเชิงศาสนาศาสตร์มาก)
3. ทฤษฎีที่สาม ชาวยิวมีการแปลงอักษรเป็นตัวเลขได้ เมื่อเทียบชื่อของ "อับราฮัม" ก็จะได้ตัวเลข 41 ซึ่งเท่ากับว่าจากอับราฮัมถึงพระเยซู ซึ่งพระเยซูอยู่ที่อันดับ 41 พอดี และชื่อ "ดาวิด" ได้ตัวเลข 14 จึงเป็นเล่นคำกับตัวเลข 14 ของแต่ละรุ่น (ก็ถือว่าพอรับได้ในเชิงวัฒนธรรมยิว)
*สรุป ถึงอย่างไร การบันทึกของมัทธิวก็ยังทิ้งปมปริศนาให้คนรุ่นต่อมาขบคิดกันต่อไป แต่สิ่งสำคัญนั้นอยู่ที่พระเยซูทรงไถ่เราที่กางเขน และทรงยอมตาย และทรงเป็นขึ้นมาแล้ว พระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้ง เพื่อสะสางเรื่องราวทุกอย่างที่เป็นข้อสงสัยทุกประการ
ราหับอยู่เมืองเยรีโค และมีหน้าที่เป็นโสเภณีประจำเมือง เธอให้การช่วยเหลือสายลับของโยชูวา และสุดท้ายเธอก็รอดชีวิตจากข้อตกลงที่เธอได้กระทำกับสายลับ 2 คนนั้น
ในพงศ์พันธุ์ของพระเยซู เธอเป็นหนึ่งในหญิงไม่กี่คนที่ถูกอ้างอิงถึง
การตัดสินใจของราหับ ส่งผลให้เธอได้กลายเป็นแม่ของโบอาส และต่อมาม่ายสาวอย่างนางรูธมาเป็นภรรยาของเขาและมี "โอเบด" และ "เจสซี" ซึ่งเป็นลูกหลานเรื่อยมาจนถึง "ดาวิด" ต้นตระกูลกษัตริย์แห่งอิสราเอลสายยูดาห์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น